Page 68 - kpi18343
P. 68
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความปรองดอง
ก ร ณี ศึ ก ษ า ใ น ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ
นอกจากจะมีภารกิจตามที่บทบัญญัติกำหนดไว้แล้ว ก็ย่อมต้องมีงานที่เรียกได้ว่าเป็น
“งานธุรการ” เช่น การติดต่อประสานงานกับบุคคลอื่น งานจัดซื้อจัดจ้าง ฯลฯ ด้วย
เหตุนี้ คณะกรรมการจึงจำเป็นต้องมีสำนักงานซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยปฏิบัติงานธุรการให้
เพราะถ้าหากปล่อยให้คณะกรรมการไม่มีเจ้าหน้าที่เป็นของตนเองแล้ว การไป
กำหนดให้คณะกรรมการไปใช้สำนักงานของหน่วยงานอื่น ก็อาจทำให้คณะกรรมการ
ขาดความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ได้
ทั้งนี้ บทบัญญัติของแต่ละประเทศจะมีการกำหนดเรื่องการตั้ง
กรรมการที่แตกต่างกันไป เช่น กรณีของประเทศชิลี ใน ค.ศ .1990 (Rettig
Commission) กำหนดเพียงสั้นๆว่าให้มีเลขาธิการของคณะกรรมการ และมีการระบุ
ชื่อเลขาธิการ ซึ่งจะทำหน้าที่บริหารจัดการงานธุรการของคณะกรรมการทุกอย่าง
และมีเจ้าหน้าที่ที่เพียงพอในการทำงานนั้น แต่ก็ไม่ได้กำหนดที่มาของเจ้าหน้าที่ว่าจะ
มีที่มาอย่างไร แต่บทบัญญัติบางประเทศก็มีการกำหนดรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวนี้
เอาไว้ โดยมุ่งเน้นให้ได้เจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถที่จะปฏิบัติงานได้ และในเมื่อ
คณะกรรมการค้นหาความจริงส่วนใหญ่มีเวลาดำเนินงานประมาณ 6 เดือน – 1 ปี
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเพียงสั้นๆ แล้ว การมีเจ้าหน้าที่สำนักงานของคณะกรรมการค้นหา
ความจริงที่มีประสบการณ์และมีความสามารถจึงมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับ
การดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีตามกรอบเวลาที่กำหนด ด้วยเหตุนี้
บทบัญญัติในหลายประเทศจึงมีการกำหนดรายละเอียดที่มาของเจ้าหน้าที่ใน
สำนักงานคณะกรรมการค้นหาความจริงไว้ ซึ่งมีความแตกต่างกันไป ดังนี้
หนึ่ง กำหนดเฉพาะผู้มีอำนาจในการคัดเลือกผู้ที่จะทำหน้าที่
เป็นเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน เช่น กรณีของประเทศมอริเซียส ซึ่งกำหนดให้เลขาธิการ
คณะรัฐมนตรี และเลขาธิการสำนักงานข้าราชการพลเรือน (Head of Civil Service)
คัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ในสำนักงานเลขาธิการตามที่คณะกรรมการ
ร้องขอ หรือกรณีของประเทศแอฟริกาใต้ซึ่งกำหนดให้คณะกรรมการเป็นผู้มีอำนาจ
แต่งตั้งเจ้าหน้าที่สำนักงาน และกรณีของประเทศตูนิเซีย ซึ่งบัญญัติกว้างๆ เพียงให้
คณะกรรมการสามารถจัดตั้งสำนักงานที่ทำหน้าที่ทำงานบริหารได้ โดยขึ้นตรงกับ
คณะกรรมการเอง และกำหนดให้ออกกฎระเบียบในการคัดเลือกแต่งตั้งเจ้าหน้าที่
สำนักงาน
สถาบันพระปกเกล้า