Page 207 - kpi16607
P. 207
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
ประชาธิปไตยที่มีอยู่ เช่น มีท้องถิ่นที่มีการรวบรวมผู้เข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติ
ท้องถิ่นเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่นหรือการใช้ประชามติมากขึ้น การสามารถถอดถอน
สมาชิกสภาท้องถิ่น คณะผู้บริหารท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่นโดยการลงคะแนน
เสียงของประชาชนได้สำเร็จ หรือการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและคณะ
ผู้บริหารท้องถิ่นที่มีการแข่งขันทางการเมืองมากขึ้นและบางพื้นที่มีจำนวนผู้ออกไป
ใช้สิทธิสูงกว่าการเลือกตั้งในระดับชาติ เป็นต้น แม้ว่าการเมืองและการพัฒนา
45
ประชาธิปไตยบางฝ่ายอาจมองว่าได้สร้างความขัดแย้งทางการเมืองในท้องถิ่น
ถึงแก่ชีวิต อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วท้องถิ่นมีกระบวนการทำงานที่เป็น
ประชาธิปไตยและทำงานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ โดยประชาชนร้อยละ 71.3
ยังเห็นว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความใส่ใจและทำงานแบบปรึกษาหารือกับ
ประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ และความขัดแย้งทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ
46
ที่ต้องหาทางยับยั้ง ดังนั้น ท้องถิ่นจึงน่าจะมีศักยภาพในการพัฒนาการเมืองและ
เสริมสร้างประชาธิปไตยระยะยาวแม้ว่าในช่วงระยะเวลาอันสั้นอาจยังไม่เห็น
ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและต้องอาศัยความอดทนและการรักษาสถาบันอันเป็น
ประชาธิปไตยพื้นฐานของท้องถิ่นให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง 1
กล่าวโดยสรุป การกระจายอำนาจและการปกครองท้องถิ่นจากการประกาศ
ใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนดุลอำนาจจากที่รวมศูนย์
ไว้ที่รัฐส่วนกลางมาสู่มือท้องถิ่นและประชาชนมากขึ้น แม้ผลการกระจายอำนาจ
มีความหลากหลายแต่ทิศทางโดยรวมแล้วประชาชนส่วนมากยอมรับบทบาท
ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการสร้างนวัตกรรมการจัดบริการสาธารณะ
ที่หลากหลาย และสร้างพัฒนาการเมืองกับประชาธิปไตยในท้องถิ่น ทำให้ทิศทาง
การปฏิรูปและการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จึงพยายามยกระดับการกระจาย
อำนาจโดยเพิ่มอำนาจและพัฒนาวิธีการใหม่ ๆ ที่จำเป็นสำหรับท้องถิ่น โดย
45 วุฒิสาร ตันไชย. (2558). การสังเคราะห์ข้อเสนอการกระจายอำนาจและการปกครอง
ท้องถิ่นเพื่อการปฏิรูปโครงสร้างการปกครองท้องถิ่น: การปกครองท้องถิ่นที่เสริมสร้าง
ประชาธิปไตยท้องถิ่นและความเข้มแข็งชุมชน. อ้างแล้ว.
46 วีระศักดิ์ เครือเทพ และคณะ. (2557). 15 ปี การกระจายอำนาจของไทยสรุปผล
การวิจัยและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย. อ้างแล้ว, น. 144.
สถาบันพระปกเกล้า