Page 60 - kpi15695
P. 60
คํ า พิ พ า ก ษ า น่ า รู้
ค ดี ป ก ค ร อ ง ข อ ง อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น
นี้อย่างช้าที่สุดในวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๖ การที่ผู้ฟ้องคดียื่นฟ้องคดีนี้
เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๔๘ จึงเป็นการยื่นฟ้องคดีเกินกว่าหนึ่งปีนับแต่
วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดีตามมาตรา ๕๑ แห่งพระราช
บัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
ศาลปกครองชั้นต้นจึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาจำหน่ายคดีออก
จากสารบบความและคืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมด หจก. ผู้รับเหมา
ผู้ฟ้องคดียื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งที่ ๕๒/๒๕๔๙ ว่า ที่ หจก. ผู้รับเหมา
ผู้ฟ้องคดีมีหนังสือลงวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๖ เรียกให้เทศบาล
ผู้ถูกฟ้องคดีชำระเงินค่าจ้างที่เหลือให้ผู้ฟ้องคดีนั้น ปรากฏว่าในขณะนั้น
เทศบาลผู้ถูกฟ้องคดียังมิได้ตรวจรับงานงวดสุดท้ายตามที่ หจก. ผู้รับ
เหมา ผู้ฟ้องคดีส่งมอบ ผู้ฟ้องคดีจึงยังไม่มีสิทธิตามสัญญาที่เรียกร้องให้
ผู้ถูกฟ้องคดีชำระเงินค่าจ้างที่เหลือให้ผู้ฟ้องคดีได้ จึงถือไม่ได้ว่าวันที่
ผู้ฟ้องคดีมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกฟ้องคดีชำระเงินค่าจ้างที่เหลือให้ผู้ฟ้องคดี
เป็นวันที่ผู้ฟ้องคดีรู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ แต่เมื่อผู้ถูกฟ้อง
คดียังมิได้ชำระเงินค่าจ้างที่เหลือให้ผู้ฟ้องคดีและมีหนังสือลงวันที่ ๒๕
กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ บอกเลิกสัญญาจ้างกับผู้ฟ้องคดีซึ่งผู้ฟ้องคดีได้รับ
หนังสือนั้นอันทำให้สัญญาจ้างสิ้นสุดลงแล้ว ผู้ฟ้องคดีก็ย่อมมีสิทธิ
เรียกร้องให้ผู้ถูกฟ้องคดีชำระค่าจ้างที่ค้างอยู่ได้ กำหนดเวลาการฟ้อง
คดีนี้จึงเริ่มนับตั้งแต่วันที่การบอกเลิกสัญญามีผล ซึ่งแม้ไม่ปรากฏว่า
ผู้ฟ้องคดีได้รับหนังสือแจ้งการบอกเลิกสัญญาในวันใด แต่ย่อมถือได้ว่า
ผู้ฟ้องคดีได้รับหนังสือแจ้งการบอกเลิกสัญญานั้นอย่างเร็วที่สุดในวันที่
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ นั้นเอง เมื่อผู้ฟ้องคดียื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาล
ปกครองชั้นต้นในวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๔๘ จึงเป็นการยื่นคำฟ้องภายใน
กำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดีตามมาตรา
๕๑ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
1