Page 26 - kpi15695
P. 26
คํ า พิ พ า ก ษ า น่ า รู้
ค ดี ป ก ค ร อ ง ข อ ง อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น
๒.๔. มีพฤติกรรมในทางทุจริต
มีพฤติกรรมในทางทุจริต
พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลบัญญัติให้
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลต้องไม่เป็นผู้มีพฤติกรรมในทางทุจริต
ความหมายของคำว่า “เป็นผู้มีพฤติกรรมในทางทุจริต” นั้น จะต้อง
กระทำการในทางทุจริตเฉพาะกับองค์การบริหารส่วนตำบลที่ตนเป็น
นายกอยู่เท่านั้น หรือว่าหากเป็นผู้มีพฤติกรรมในทางทุจริตไม่ว่าเป็น
เรื่องอะไร กระทำกับใครล้วนแล้วแต่เป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งนายก
องค์การบริหารส่วนตำบลทั้งสิ้น
ในเรื่องนี้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีหนังสือหารือไป
ยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการกฤษฎีกา
(คณะที่ ๑) ได้ตอบข้อหารือตามบันทึกสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ ๓๐๓/๒๕๕๓ ว่า มาตรา ๕๘/๑ (๓) แห่ง
พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗
ได้กำหนดลักษณะต้องห้ามของบุคคลผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลว่าต้องไม่เป็นผู้มีพฤติกรรมในทางทุจริต
ลักษณะต้องห้ามเช่นว่านี้จึงไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่หรือจะต้องมีคำ
พิพากษาอันถึงที่สุดของศาลวินิจฉัยว่าได้กระทำความผิดโดยทุจริต
เพียงแต่มีพฤติกรรมไปในทางทุจริตก็ย่อมเข้าข่ายต้องห้ามแล้ว สำหรับ
คำว่า “ทุจริต” นั้น โดยเทียบเคียงจากนิยามคำว่า “โดยทุจริต” ตาม
มาตรา ๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ที่หมายความถึง “เพื่อแสวงหา
ประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น”
ควบคู่กับแนวคำพิพากษาของศาลฎีกาที่พิพากษาเกี่ยวกับความหมาย
ของคำว่า “โดยทุจริต” ว่า ประโยชน์ที่มิควรได้นี้ อาจเป็นประโยชน์
1