Page 157 - kpi15695
P. 157
คํ า พิ พ า ก ษ า น่ า รู้
ค ดี ป ก ค ร อ ง ข อ ง อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น
จึงได้ทำการปักหลักเขตใหม่จำนวน ๒ หลัก ลงบนถนนที่เทศบาลเมือง
คูคตก่อสร้างแทนหลักเขตเก่าซึ่งสูญหาย และผู้ฟ้องคดีได้แจ้งให้
เทศบาลเมืองคูคตดำเนินการรื้อถอนถนนที่รุกล้ำเข้ามาในที่ดินพิพาท
แล้ว แต่เทศบาลเมืองคูคตเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ ข้อเท็จจริงในเรื่อง
นี้จึงไม่ปรากฏว่าเทศบาลเมืองคูคตได้มีการโต้แย้งหรือคัดค้านว่าถนน
คอนกรีตเสริมเหล็กที่ก่อสร้างลงบนที่ดินพิพาทเป็นการสร้างลงบนที่ดิน
อันเป็นกรรมสิทธิ์ของเทศบาลเมืองคูคต จึงฟังไม่ได้ว่าคดีนี้เป็นคดี
พิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินอันเป็นคดีเกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์สินของ
บุคคลซึ่งอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม ดังนั้น เมื่อ
ผู้ฟ้องคดีได้นำเรื่องนี้มาฟ้องต่อศาลปกครองชั้นต้นโดยขอให้
ศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เทศบาลเมืองคูคตทำการ
รื้อถอนถนนที่ได้ก่อสร้างรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของผู้ฟ้องคดี คดีนี้จึงเป็น
คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองอันเกิด
จากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ซึ่งอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือ
มีคำสั่งของศาลปกครองตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราช
บัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
และเป็นการฟ้องคดีภายในกำหนดระยะเวลา ๑ ปี นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดี
รู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี ทั้งนี้ตามมาตรา ๕๑ แห่งพระราชบัญญัติ
ดังกล่าว ศาลปกครองชั้นต้นจึงมีอำนาจรับคดีนี้ไว้พิจารณาพิพากษา
หรือมีคำสั่งได้ ที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและ
ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความนั้น ศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้อง
ด้วย จึงมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นให้รับคำฟ้องไว้
พิจารณาและให้ศาลปกครองชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตาม
รูปคดี
1 8