Page 156 - kpi15695
P. 156
คํ า พิ พ า ก ษ า น่ า รู้
ค ดี ป ก ค ร อ ง ข อ ง อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น
ดังกล่าว แต่เทศบาลเมืองคูคตเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ ผู้ฟ้องคดี
จึงนำเรื่องนี้มาฟ้องต่อศาลปกครองชั้นต้น
ขอให้ศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เทศบาลเมือง
คูคตทำการรื้อถอนถนนที่ได้ก่อสร้างรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของผู้ฟ้องคดี
ศาลปกครองชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ศาลจะมีคำบังคับตาม
คำขอของผู้ฟ้องคดีโดยให้เทศบาลเมืองคูคตทำการรื้อถอนถนนที่รุกล้ำ
ที่ดินพิพาทออกไปได้หรือไม่นั้น ศาลจำต้องพิจารณาให้ได้ความ
เสียก่อนว่าที่ดินพิพาทบริเวณที่เทศบาลเมืองคูคตได้สร้างถนนรุกล้ำ
เข้าไปเป็นที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ฟ้องคดีหรือเป็นทางสาธารณะ
ซึ่งเป็นกรณีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน ไม่ใช่เป็นคดีปกครองที่อยู่ใน
อำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา ๙ แห่งพระราช
บัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
ศาลปกครองชั้นต้นจึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่าย
คดีออกจากสารบบความ
ผู้ฟ้องคดีจึงยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น
ที่ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา ขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้รับคำฟ้อง
ของผู้ฟ้องคดีไว้พิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งต่อไป
ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง ที่ ๓๑๖/๒๕๔๘ ว่า เมื่อพิจารณาจาก
คำฟ้องของผู้ฟ้องคดีซึ่งฟ้องว่าเทศบาลเมืองคูคตได้ก่อสร้างถนน
คอนกรีตเสริมเหล็กรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้ฟ้องคดี โดยเจ้าพนักงาน
ที่ดินจังหวัดปทุมธานี สาขาลำลูกกา ได้นัดทำการรังวัดสอบเขตตาม
คำร้องขอของผู้ฟ้องคดี ผลการรังวัดสอบเขตปรากฏว่ามีถนน
คอนกรีตเสริมเหล็กที่เทศบาลเมืองคูคตได้ก่อสร้างรุกล้ำที่ดินของผู้ฟ้อง
คดี โดยในขณะทำการรังวัดสอบเขตเจ้าของที่ดินข้างเคียงและเทศบาล
เมืองคูคตไม่ได้คัดค้านการรังวัด เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี
1