Page 232 - kpi13917
P. 232
2 1
น่าอยู่ มีศักยภาพเพียงพอในการทำหน้าที่เป็นกลไกที่สร้างการยอมรับจากภาคีในพื้นที่ภาคใต้
ตอนล่าง ในเขตพื้นที่ 7 จังหวัดใต้ล่าง ประกอบด้วย จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส พัทลุง สตูล
ตรัง และสงขลา อีกทั้งสามารถหนุนเสริมให้เกิดจินตนาการการพัฒนาตนเองให้เป็นองค์กรเพื่อ
สังคม โดยไม่หวังผลกำไร
ดังนั้น คณะทำงานและคณะกรรมการบริหารโครงการ จึงได้รวบรวมประสบการณ์ต่างๆ
ที่ได้สร้างกระบวนการขับเคลื่อนแบบมีส่วนร่วมของกลไกภาคประชาสังคมกับเทศบาลตำบลปริก
มาด้วยระยะเวลาหนึ่ง เพื่อเสนอเป็น “โครงการสนับสนุนการเสริมสร้างศักยภาพขบวนการและ
การบริหารจัดการเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาวะชุมชนเพื่อชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง” : พื้นที่ภาคใต้
ตอนล่าง 7 จังหวัด ต่อสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อทำหน้าที่เป็น
ศูนย์ในการประสานงานในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างเพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น การสาน
ต่อภารกิจด้านการกระจายอำนาจสู่องค์กรชุมชนท้องถิ่น เปิดโอกาสการขยายพื้นที่การทำงานทั้งเชิง
พื้นที่ (Area based) และเชิงประเด็น (Issues based) ทั้งนี้ เพื่อเชื่อมร้อยกลไกการทำงานใน
ระดับพื้นที่ซึ่งมีทั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันทางวิชาการ และหน่วยงาน NGOs โดย
ผ่านกระบวนการส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนภารกิจด้านต่าง ๆ อย่างบูรณาการกัน เช่น ด้านการ
บริหารจัดการโครงการ การจัดการข้อมูล การจัดการความรู้ และการจัดการเครือข่าย ให้กับเพื่อน
เครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคีองค์กรในระดับพื้นที่ที่ได้เข้าร่วมโครงการภายใต้การ
สนับสนุนของ สสส. และโครงการต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สสส.สำนักต่าง ๆ ในเขตพื้นที่
7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ประกอบด้วย จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล พัทลุง ตรัง และ
สงขลา
ศูนย์ประสานงานฯ มีการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่างๆ อาทิ มีการจัดทำชุดข้อมูล
สื่อสาร การจัดทำเอกสารวิชาการ การจัดเวทีเครือข่าย (Think Tank) การจัดเวทีสาธารณะ ฯลฯ
สภาองค์กรชุมชนเทศบาลตำบลปริก กับการพัฒนาท้องถิ่น
ปัจจุบันวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนตำบลปริกส่วนใหญ่ยังมีความเป็นสังคมแบบชาวบ้าน
บ้านเรือนตั้งอยู่กระจัดกระจาย ไม่หนาแน่น ชีวิตความเป็นอยู่โดยทั่วไปเป็นวิถีที่เรียบง่าย มีระบบ
ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันแบบเครือญาติ มีการเอื้อเฟื้อและพึ่งพาอาศัยกัน และเนื่องจากส่วนใหญ่
เป็นชาวไทยมุสลิม การดำรงชีวิตจึงยึดมั่นตามหลักอิสลาม คือการปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของ
รางวัลพระปกเกล้า’ 55