Page 46 - kpi11530
P. 46
คำพิพากษา“ใน”คดีปกครองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
คำพิพากษา“ใน”คดีปกครองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ด้วยกฎหมายโดยทุจริต กรณีเรียกและรับเงินจากผู้ขออนุญาตประกอบ
กิจการโรงโม่หิน คณะกรรมการสอบสวนมีมติว่าข้อร้องเรียนดังกล่าวเป็น
ความจริง จึงเสนอนายอำเภอให้วินิจฉัยว่า นายคำนวณและนายคำรบ
ทั้งสองเป็นผู้มีพฤติกรรมในทางทุจริต นายอำเภออาศัยอำนาจตาม
มาตรา ๔๗ ตรี วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การ
บริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ วินิจฉัยว่า นายคำนวณและ
นายคำรบ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลมีลักษณะต้องห้ามตาม
มาตรา ๔๗ ทวิ (๒) เนื่องจากมีพฤติกรรมในทางทุจริตทำให้สมาชิกภาพ
สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลของทั้งสองสิ้นสุดลง ตามมาตรา
๔๗ ตรี (๗) แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน
นายคำนวณและนายคำรบอ้างว่า คดีที่ทั้งสองถูกกล่าวหานั้น เป็น
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมายในการ
ดำเนินคดีอาญาผู้เสียหายจะต้องไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนและ
ดำเนินกระบวนการไปตามขั้นตอนจนกว่าศาลยุติธรรมจะมีคำพิพากษา
ถึงที่สุดว่าผู้ฟ้องคดีทั้งสองมีความผิดจริง เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า
ผู้ฟ้องคดีทั้งสองมีความผิดจริงแล้ว นายอำเภอจึงจะใช้อำนาจตาม
พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลโดยอาศัย
คำพิพากษาของศาลมาเป็นแนวทางประกอบในการวินิจฉัยคุณสมบัติของ
บุคคลทั้งสองได้ แต่เรื่องที่กล่าวหาว่า ทั้งสองเรียกรับเงินจากผู้ประกอบ
กิจการโรงโม่หินยังไม่มีการไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน คดีดังกล่าว
จึงยังไม่เข้าสู่กระบวนพิจารณาของศาลยุติธรรม จึงไม่มีคำพิพากษาของ
ศาลถึงที่สุดว่าทั้งสองมีความผิด ถือว่าทั้งสองยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ แต่การที่
นายอำเภอกลับนำผลการสรุปของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ว่า
ทั้งสองมีความผิดจริงตามคำกล่าวหาสั่งให้สมาชิกภาพสมาชิกสภา
องค์การบริหารส่วนตำบลของทั้งสองสิ้นสุดลง จึงเป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบ
ด้วยกฎหมาย
40 การพ้นจากตำแหน่งของสมาชิกสภาท้องถิ่น