Page 243 - kpi11530
P. 243
คำพิพากษา“ใน”คดีปกครองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เปลี่ยนการใช้ประเภทอาคาร ภายใน ๓๐ วัน นางรัชนีได้ปฏิบัติตามคำสั่ง
และต่อมากรุงเทพมหานคร ได้ออกหนังสือรับรองการก่อสร้างอาคาร
ดัดแปลงอาคาร และมีการดำเนินคดีกับนางรัชนี ฐานก่อสร้างอาคารก่อน
ได้รับอนุญาตแล้ว แต่นายกมลเห็นว่าผู้อำนวยการเขตบางซื่อควรจะ
เพิกถอนหรือระงับใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการค้าของนางรัชนี จึงได้ไป
ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครอง
ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ.๒๕/
๒๕๕๒ ว่าผู้อำนวยการเขตบางซื่อได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ปี พ.ศ.
๒๕๔๓ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๗ ว่านางรัชนี ประกอบกิจการขายเศษเหล็ก เศษ
นายกมลได้รับ พลาสติก กล่องกระดาษที่ใช้แล้ว ซึ่งการประกอบกิจการดังกล่าวก่อให้เกิด
ความเดือดร้อนเสียหาย เสียงดัง จากการถ่ายสินค้า ฝุ่นฟุ้งกระจาย มีการตัดเหล็กส่งกลิ่นเหม็น
จากเหตุเดือดร้อนรำคาญ และไฟไหม้ที่เกิดจากการตัดเหล็ก ประกอบกิจการนอกอาคารทำให้เกิด
อย่างใดอย่างหนึ่ง ความสกปรกไม่เป็นระเบียบ และกีดขวางทางสัญจร ซึ่งในแต่ละครั้งที่ได้มี
ย่อมมีสิทธินำคดีมาฟ้อง การร้องเรียนเรื่องเหตุรำคาญดังกล่าว ผู้อำนวยการเขตบางซื่อได้ดำเนิน
ต่อศาลปกครองใหม่ การตรวจสอบและออกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้แก้ไขเหตุรำคาญ โดย
ไม่ปรากฏข้อเท็จว่านางรัชนี ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตั้งแต่สองครั้งขึ้นไป
แต่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน และมีเหตุที่จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตอีก หรือต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่า
คงพยายามอยู่ร่วมกัน ได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ อีกทั้ง จะเห็นได้ว่า เหตุรำคาญ
โดยสงบ ที่นายกมลผู้ฟ้องคดีได้รับจากการประกอบกิจการของนางรัชนี ยังไม่มี
เอาใจเขามาใส่ใจเรา ความร้ายแรงถึงขนาดอันจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพ
จะดีกว่า ของประชาชนหรือมีผลกระทบต่อสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการ
ดำรงชีพของนายกมลผู้ฟ้องคดีและผู้อยู่อาศัยข้างเคียง เพราะเหตุดังกล่าว
จะมีเฉพาะเวลาขนถ่ายสินค้าประกอบกับผู้อำนวยการเขตบางซื่อ ก็ได้มี
คำสั่งห้ามมิให้นางรัชนี ประกอบกิจการในช่วงเวลาหลัง ๑๘ นาฬิกา
เป็นต้นไป กรณีดังกล่าวจึงไม่เป็นเหตุให้ผู้อำนวยการเขตบางซื่อต้อง
เพิกถอนใบอนุญาตของนางรัชนี ตามาตรา ๖๐ แห่งพระราชบัญญัติการ
เหตุเดือดร้อนรำคาญ 4