Page 205 - kpi11530
P. 205
คำพิพากษา“ใน”คดีปกครองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นเสียก่อน เช่น คณะเทศมนตรี คณะ
กรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบล
มีคดีซึ่งฟ้องร้องเกี่ยวกับภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ศาลยุติธรรมเป็น
ตัวอย่าง คือ เทศบาลเมืองแห่งหนึ่งเมื่อได้รับแบบแจ้งรายการเพื่อเสียภาษี
โรงเรือนและที่ดินประจำปีแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ของเทศบาลได้ไต่สวน
ตรวจตราทรัพย์สินดังกล่าวและแจ้งรายการประเมินให้บริษัทจำเลย
ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารที่พักอพาร์ตเมนท์ห้องเช่า บริษัทจำเลยทราบการ
ประเมินแล้วไม่ยอมนำเงินไปชำระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน และไม่ได้ยื่น
คำร้องขอให้พิจารณการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินใหม่ ต่อมาเทศบาล
ในด้านของประชาชน เมืองแห่งนั้นได้ยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรม เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษา
ผู้มีหน้าที่เสียภาษี บังคับให้บริษัทจำเลยชำระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินตามที่ได้รับการ
โรงเรือนและที่ดิน ประเมิน บริษัทจำเลยได้ยื่นคำให้การต่อสู้ว่าการประเมินของเทศบาลทำ
เมื่อเห็นว่าการแจ้ง โดยไม่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง
การประเมินภาษี ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “...ตามพระราชบัญญัติ
โรงเรือนและที่ดิน ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. ๒๔๗๕ มาตรา ๑๘ และมาตรา ๑๙ กำหนด
ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ผู้รับประเมินหรือบุคคลผู้ที่ชำระค่าภาษีมีหน้าที่ยื่นแบบแจ้งรายการเพื่อ
ไม่ถูกต้อง เสียภาษีภายในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี โดยนำค่ารายปีของปีที่ล่วงแล้ว
ต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์ นั้นเป็นหลักในการคำนวณภาษี ซึ่งจะต้องเสียในปีต่อมา ดังนี้ ทรัพย์สินที่
การประเมินต่อ จำเลยใช้ในปี ๒๕๓๘ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องยื่นรายการทรัพย์สินภายใน
คณะบริหารองค์กรปกครอง เดือนกุมภาพันธ์ปี ๒๕๓๙ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการประเมินและ
ส่วนท้องถิ่น แจ้งจำนวนภาษีที่ต้องชำระไปยังจำเลย ภาษีดังกล่าวเรียกว่าภาษีโรงเรือน
จึงจะมีสิทธิฟ้อง และที่ดินประจำปีภาษี ๒๕๓๙ ที่โจทก์ระบุปีภาษี ๒๕๓๙ โดยนำค่ารายปี
หรือต่อสู้คดีใน ของปีที่ล่วงแล้วมาคำนวณตามแบบแจ้งรายการจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ชั้นศาลได้ ฟ้องโจทก์แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลัก
แห่งข้อหาแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
ภาษีท้องถิ่น 0