Page 156 - kpi11530
P. 156
คำพิพากษา“ใน”คดีปกครองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
คำพิพากษา“ใน”คดีปกครองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือ ลงวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๔๘ ถึงผู้กำกับการ
สถานีตำรวจภูธรอำเภอหนองแค แจ้งความร้องทุกข์นายวัลลภ และ
แจ้งว่านายวัลลภได้เสียชีวิตแล้ว จึงถือได้ว่าผู้ฟ้องคดีได้รู้หรือควรรู้ถึง
ความตายของนายวัลลภอย่างช้าที่สุด ในวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๔๘
การที่ผู้ฟ้องคดีนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครองชั้นต้นเมื่อวันที่ ๑๗
สิงหาคม ๒๕๔๙ จึงเป็นการฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดเวลาตาม
บทบัญญัติดังกล่าว ผู้ฟ้องคดีจึงไม่มีสิทธิฟ้องบังคับให้ทายาทโดย
ธรรมของนายวัลลภใช้เงินหรือส่งมอบทรัพย์มรดกใดๆ ให้แก่ผู้ฟ้องคดี
ได้ ผู้ฟ้องคดีจึงมิใช่ผู้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครอง
ส่วนคำร้องอุทธรณ์ของ อบต.หนองปลิง ผู้ฟ้องคดีที่ว่า นาย
วัลลภถึงแก่ความตายระหว่างดำเนินการสอบสวนเพื่อหาตัวผู้รับผิด
และยังไม่ปรากฏตัวผู้รับผิด ผู้ฟ้องคดีจึงยังมิได้มีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของ
นายวัลลภที่จะฟ้องทายาทนายวัลลภตามมาตรา ๑๗๕๔ วรรคสาม
แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้นั้น เห็นว่า คดีนี้เป็นการ
ฟ้องคดีให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนอันเกิดจากมูลละเมิด ซึ่ง
มาตรา ๒๐๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติว่า ใน
กรณีหนี้อันเกิดแต่มูลละเมิดนั้น ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดมาแต่เวลาที่ทำ
ละเมิด ดังนั้น สิทธิเรียกร้องในมูลหนี้ละเมิดจึงเกิดตั้งแต่วันทำละเมิด
ส่วนการที่ผู้ฟ้องคดีจะต้องดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อ
เท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเพื่อหาตัวเจ้าหน้าที่ผู้ต้องรับผิดตาม
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์เกี่ยวกับความรับผิด
ทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ นั้น เป็นกรณีที่หน่วยงานของ
รัฐกำหนดวิธีปฏิบัติเพื่อเป็นแนวทางให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ซึ่งไม่อาจนำ
มาอ้างเป็นเหตุเพื่อฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามมาตรา ๑๗๕๔
ความรับผิดทางละเมิด