Page 62 - kpi10607
P. 62
ฝ่าวิกฤต สร้างโอกาส บทบาทท้องถิ่นไทย
1
การใช้ตำแหน่งหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายตามมาตรานี้ มิให้
หมายความรวมถึงการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นใช้ตำแหน่งหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ตามปกติที่พึงต้อง
ปฏิบัติในตำแหน่งหน้าที่นั้นหรือที่พึงต้องปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย หรือเป็นการแนะนำหรือช่วยเหลือ สถาบันพระปกเกล้า
ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการออกเสียงประชามติ ที่มิได้เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าการกระทำ
นั้นจะเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือไม่ก็ตาม
ในกรณีปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามวรรคหนึ่ง ให้
คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายมีอำนาจสั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นยุติหรือระงับการกระทำ
ใดที่อาจทำให้การออกเสียงประชามติไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับ
ตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดสิบปี
มาตรา 57 ผู้ใดขัดขวางการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้ง
เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการออกเสียงประชามติ คณะบุคคลหรือบุคคลที่คณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งเพื่อให้
ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้งตามมาตรา 29 ต้องระวาง
โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการขัดขวางการปฏิบัติงานตามวรรคหนึ่งได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลัง
ประทุษร้าย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 58 ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างผู้ใดขัดขวาง หน่วงเหนี่ยว หรือไม่ให้ความสะดวกพอสมควร
แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกจ้างของตนในการไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวาง
โทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 59 ผู้ใดทำลายบัตรที่มีไว้สำหรับการออกเสียงประชามติตามพระราชบัญญัตินี้โดยไม่มีอำนาจ
กระทำได้ หรือจงใจกระทำการด้วยประการให้บัตรออกเสียงประชามติชำรุดหรือเสียหาย หรือกระทำการด้วย
ประการใดๆ แก่บัตรเสียให้เป็นบัตรที่ใช้ได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ถ้าผู้กระทำตามวรรคหนึ่งเป็นเจ้าพนักงานหรือเป็นผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินการออกเสียงประชามติ
ท้องถิ่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
มาตรา 60 ผู้ใดจะกระทำการดังต่อไปนี้ในระหว่างเวลาเปิดการลงคะแนนออกเสียงประชามติท้องถิ่น
มิได้
(1) ออกเสียงหรือพยายามออกเสียง โดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียงหรือไม่มีสิทธิ
ลงคะแนนในหน่วยออกเสียงนั้น
(2) ใช้บัตรอื่นที่มิใช่บัตรออกเสียงประชามติมาออกเสียง
(3) นำบัตรออกเสียงประชามติออกไปจากที่ออกเสียง