Page 59 - kpi10607
P. 59
ฝ่าวิกฤต สร้างโอกาส บทบาทท้องถิ่นไทย
ในกรณีที่เหตุตามวรรคหนึ่งเกิดขึ้นในวันที่ลงคะแนนเสียง ให้คณะกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียง
สถาบันพระปกเกล้า ประกาศงดการลงคะแนนในหน่วยลงคะแนนเสียงนั้น แล้วรายงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบด่วน
ในกรณีที่มีประกาศงดการลงคะแนนในหน่วยลงคะแนนเสียงใด ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด
วันลงคะแนนเสียงใหม่ในหน่วยลงคะแนนเสียงนั้น ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับทราบว่าเหตุที่ทำให้
ไม่อาจลงคะแนนได้นั้นสงบหรือยุติลงแล้ว แต่ต้องประกาศล่วงหน้าก่อนวันลงคะแนนไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
มาตรา 47 เมื่อถึงเวลาปิดการลงคะแนนเสียงให้คณะกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงประกาศ
ปิดการลงคะแนนเสียงและงดจ่ายบัตรลงคะแนนเสียง และให้ทำเครื่องหมายในบัตรที่เหลืออยู่ตามวิธีการที่
คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด เพื่อให้เป็นบัตรที่ใช้ลงคะแนนเสียงไม่ได้ และจัดทำรายงานเกี่ยวกับจำนวน
บัตรลงคะแนนเสียงทั้งหมด จำนวนผู้มาแสดงตนและบัตรลงคะแนนเสียง และจำนวนบัตรที่เหลือ โดยให้
กรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนั้นทุกคนลงลายมือชื่อไว้ในรายงานดังกล่าว และ
ประกาศให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงซึ่งอยู่ที่นั้นทราบ
มาตรา 48 เมื่อปิดการลงคะแนนเสียงให้คณะกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงแต่ละแห่งนับคะแนน
โดยเปิดเผย ณ ที่ลงคะแนนเสียงนั้นจนแล้วเสร็จ
เมื่อนับคะแนนเสร็จแล้ว ให้คณะกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงนำบัตรลงคะแนนเสียงของผู้มาใช้
สิทธิทั้งหมดใส่ไว้ในหีบบัตรลงคะแนนเสียง พร้อมทั้งรายงานผลการนับคะแนน แล้วปิดหีบบัตรจัดส่งไปให้
คณะกรรมการการเลือกตั้ง
วิธีการนับคะแนนและการจัดส่งหีบบัตร ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด
มาตรา 49 บัตรลงคะแนนเสียงดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย
(1) บัตรปลอม
(2) บัตรที่มิได้ทำเครื่องหมายลงคะแนน
(3) บัตรที่ทำเครื่องหมายจนไม่อาจทราบได้ว่าลงคะแนนเสียงในทางใด
(4) บัตรที่มีลักษณะตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดว่าเป็นบัตรเสีย
ให้คณะกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงสลักหลังในบัตรที่มีลักษณะตามวรรคหนึ่งว่า “เสีย” พร้อมทั้ง
ระบุเหตุผลว่าเป็นบัตรเสียตามอนุมาตราใด แล้วลงลายมือชื่อกำกับไว้ไม่น้อยกว่าสองคน และห้ามมิให้นับบัตร
เสียเป็นคะแนน
มาตรา 50 เมื่อได้ผลการนับคะแนนจากที่ลงคะแนนเสียงทุกแห่งแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง
ประกาศผลการลงคะแนนเสียงและจำนวนผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเสียง
มาตรา 51 การลงคะแนนเสียงเพื่อให้สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นพ้นจากตำแหน่ง หากมี
ผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงทั้งหมดในองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นนั้น ให้การเข้าชื่อถอดถอนบุคคลนั้นเป็นอันตกไป