Page 58 - kpi10607
P. 58
ฝ่าวิกฤต สร้างโอกาส บทบาทท้องถิ่นไทย
ลักษณะและขนาดของบัตรลงคะแนนเสียงและหีบบัตรลงคะแนนเสียงให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ
การเลือกตั้งกำหนด
มาตรา 42 ในวันลงคะแนนเสียงให้เปิดการลงคะแนนเสียงตั้งแต่เวลา 08.00 นาฬิกา ถึงเวลา 15.00 สถาบันพระปกเกล้า
นาฬิกา
มาตรา 43 ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงในที่ลงคะแนน
เสียงใด ให้ลงคะแนนเสียง ณ ที่ลงคะแนนเสียงนั้นได้เพียงแห่งเดียว
มาตรา 44 ก่อนเริ่มเปิดให้มีการลงคะแนนเสียงให้คณะกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงนับจำนวน
บัตรลงคะแนนเสียงทั้งหมดของหน่วยลงคะแนนเสียงนั้น และปิดประกาศจำนวนบัตรทั้งหมดในที่ลงคะแนน
เสียงนั้นไว้ในที่เปิดเผย และเมื่อถึงเวลาเปิดการลงคะแนนเสียง ให้คณะกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงเปิด
หีบบัตรลงคะแนนเสียงในที่เปิดเผยเพื่อแสดงให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงซึ่งอยู่ ณ ที่ลงคะแนนเสียงนั้นเห็นว่า
เป็นหีบเปล่า แล้วปิดหีบบัตรลงคะแนนเสียง และให้ทำการบันทึกการดำเนินการดังกล่าว โดยให้ผู้มีสิทธิ
ลงคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองคนซึ่งอยู่ ณ ที่ลงคะแนนเสียงในขณะนั้นลงลายมือชื่อในบันทึกนั้นด้วย แต่ถ้า
ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงอยู่ในขณะนั้นก็ให้บันทึกพฤติการณ์เช่นว่านั้นไว้ในบันทึกดังกล่าว
มาตรา 45 ในระหว่างเวลาเปิดการลงคะแนนเสียง ให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงที่ประสงค์จะลงคะแนน
เสียงไปแสดงตนต่อกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียง โดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัว
ประชาชนที่หมดอายุ หรือบัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการที่มีรูปถ่ายสามารถแสดงตนได้
เมื่อคณะกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงแล้ว ให้อ่านชื่อและ
ที่อยู่ของผู้นั้นดังๆ ถ้าไม่มีผู้ใดทักท้วง ให้หมายเหตุไว้ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง โดยให้จดหมาย
เลขบัตร สถานที่ออกบัตร และวันที่บัตรหมดอายุ แล้วให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลาย
นิ้วมือในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงไว้เป็นหลักฐานตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด แล้วให้
กรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงมอบบัตรลงคะแนนเสียงให้ผู้นั้นเพื่อไปลงคะแนนเสียงต่อไป
ในกรณีที่มีผู้ทักท้วง หรือกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงสงสัยว่าผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงซึ่งมาแสดง
ตนนั้นไม่ใช่เป็นผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง ให้คณะกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงมีอำนาจ
สอบสวนและวินิจฉัยชี้ขาดว่าผู้ถูกทักท้วงหรือผู้ถูกสงสัยนั้นเป็นผู้ที่มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง
หรือเป็นผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงหรือไม่ และในกรณีที่คณะกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงวินิจฉัยว่าผู้ถูก
ทักท้วงหรือผู้ถูกสงสัยไม่ใช่เป็นผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง ให้ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของ
คณะกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียง แล้วให้คณะกรรมการประจำที่ลงคะแนนเสียงบันทึกเหตุการณ์พร้อม
คำวินิจฉัยและลงลายมือชื่อกำกับไว้ทุกคนด้วย
มาตรา 46 ในกรณีที่ไม่สามารถลงคะแนนเสียงในหน่วยลงคะแนนเสียงใดได้เนื่องจากเกิดจลาจล
อุทกภัย หรือเหตุสุดวิสัยอย่างอื่น ถ้าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนวันลงคะแนนเสียง ให้คณะกรรมการประจำที่
ลงคะแนนเสียงกำหนดที่ลงคะแนนเสียงใหม่ที่ผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงสามารถไปลงคะแนนเสียงได้โดยสะดวก
แต่ถ้าไม่อาจกำหนดที่ลงคะแนนเสียงใหม่ได้ ให้ประกาศงดการลงคะแนนในหน่วยลงคะแนนเสียงนั้น
แล้วรายงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบโดยด่วน