Page 232 - kpi11663
P. 232
2 1
สำหรับอุปโภคและบริโภค ผลิตผลการเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก เกิดความขัดแย้งของ
ประชาชนในพื้นที่ พื้นที่การเกษตรเสียหาย จำนวน 219 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 370,870.50 บาท
องค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาวิกฤตภัยแล้งที่เกิด
ขึ้น และหาวิธีการแก้ไขปัญหาให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจ
ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ดังนั้น องค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา จึงระดมภาคส่วนและ
เครือข่ายต่างๆ มาร่วมบริหารจัดการน้ำร่วมกัน โดยการบูรณาการทั้งกำลังคน วัสดุอุปกรณ์
เครื่องจักรกล และงบประมาณ ตามศักยภาพของแต่ละหน่วยงานในเครือข่าย
สมาชิกของเครือข่ายป้องกันและบรรเทาภัยแล้งแบบบูรณาการ ภายใต้โครงการบริหาร
จัดการน้ำอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย กลุ่มผู้ใช้น้ำ (กลุ่มเหมืองฝาย) เป็นกลุ่มที่ใช้น้ำจากแหล่งน้ำ
ธรรมชาติจากน้ำตกแม่กลาง (ดอยอินทนนท์) กรมทรัพยากรน้ำ ลุ่มน้ำสาขาแม่กลาง บริษัท
ซีพีเอฟ จำกัด (มหาชน) ชมรมอาสาป้องกันไฟป่า อาสาอนุรักษ์ป่าชุมชน อำเภอจอมทอง
อบจ.เชียงใหม่ การประปาส่วนภูมิภาค และหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 36 ซึ่งได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการ
เฉพาะกิจขึ้น เพื่อ ประชุมวางแผนในการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนได้รับจากภัยแล้ง โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาภัยแล้งที่ประชาชนได้รับผลกระทบในช่วงวิกฤตภัยแล้ง
มีการบริหารจัดการน้ำ และวางแผนการแก้ไขวิกฤตภัยแล้งในพื้นที่อย่างยั่งยืน โดยการขยายพื้นที่
ในการเก็บกักน้ำ และอาศัยการร่วมมือของเครือข่ายในการบริหารจัดการน้ำที่เชื่อมโยงกันในพื้นที่
กระบวนการการทำงานร่วมกันของของเครือข่ายป้องกันและบรรเทาภัยแล้งแบบบูรณาการ
ภายใต้โครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 การรู้จักปัญหาของตนเอง และการวางแผนเฉพาะหน้า
คณะผู้บริหารและเครือข่าย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย หลังจากนั้นได้มีการวางแผนเพื่อ
หาทางเก้ไขปัญหาในการบริหารจัดการน้ำเฉพาะหน้า การแบ่งน้ำเพื่อลดปัญหาการแย่งน้ำ และ
แก้ไขพื้นที่ขาดแคลนน้ำให้มีน้ำสำหรับอุปโภคและน้ำที่ใช้เพื่อการเกษตร มีองค์การบริหาร
ส่วนตำบลข่วงเปา เป็นผู้ทำหน้าที่ประสานงานรวบรวมเครือข่ายในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยได้
ขอความช่วยเหลือจากเครือข่ายภาครัฐ เช่น อำเภอจอมทอง (ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหา
วิกฤตภัยแล้งอำเภอ) ให้เป็นผู้ประสานงานโครงการผ่านหน่วยงานต่างๆ ในการสนับสนุน
รางวัลพระปกเกล้า’ 60