Page 166 - kpiebook66001
P. 166

การประชุมวิชาการ
         1   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 24
           ความท้าทายของความมั่นคงใหม่กับประชาธิปไตย

               เอกชนไปสู่ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ประธานาธิบดีโอบามาต้องการให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำ

               ในการจัดการสิ่งแวดล้อมโลก จึงดำเนินนโยบายต่างประเทศเพื่อลดการปล่อยมลพิษ เป็นผู้นำ
               ในการลงนามในความตกลงปารีส (Paris Agreement) ด้วยคำมั่นที่จะลดการปล่อย
               ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากปี 2005 ให้ลงร้อยละ 26-28 ภายในปี 2025 การเตรียมพร้อม
               รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการขับเคลื่อนผ่านการเจรจาระหว่าง

               ประเทศ

                       รัฐบาลจีนเน้นอำนาจ “แข็ง” ที่รับนโยบาบมาจากพรรคคอมมิวนิสต์ในการออกคำสั่ง
               การขึ้นมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในปี 2013
               ได้กำหนดให้การจัดการกับปัญหามลพิษเป็นหนึ่งใน “การต่อสู้ที่ยากลำบากสามครั้ง” ของจีน

               ควบคู่ไปกับความยากจนและเสถียรภาพทางการเงิน ในรายงานการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์
               จีนครั้งที่ 19 สี จิ้นผิงได้ยอมรับว่าถ่านหินและยานพาหนะเป็นแหล่งสำคัญของมลพิษทาง
               อากาศ จึงวางแผนปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจขนานใหญ่ สั่งปิดโรงงานที่ปล่อยควันมลพิษ
               เกินมาตรฐานกว่า 2,500 แห่ง สร้างระบบพลังงานที่ปลอดภัย และกระตุ้นให้ประชาชน

               ใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า ในปี 2014 รัฐบาลจีนนำโดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง
               ได้ประกาศ “สงครามต่อต้านมลพิษ” (War against pollution) ในพื้นที่ที่มีมลพิษมากที่สุด
               ได้แก่ ปักกิ่ง–เทียนจิน–เหอเป่ย (Jing-Jin-Ji Region) สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล และ
               สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี (Hao, 2018; Tomula, 2020) พร้อมกันนั้น (Guo Jian &

               นรชาติ วัง, 2561; L. Zhang, 2018)

                     2.3 การปรับโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐ

                       การก่อรูปนโยบายผ่านสภาคคองเกรส สามารถออกกฎหมายในการรับมือกับมลพิษ
               ทางอากาศ รัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon) ลงนามในนโยบาย

               สิ่งแวดล้อมแห่งชาติฉบับแรกของสหรัฐฯ (U.S. National Environmental Policy Act: NEPA)
               ในปี 1970 NEPA มีบทบาทต่อนโยบายสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก ก่อนที่จะพัฒนา
               มาเป็นสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency: EPA) ในปี 1971

               ซึ่งขึ้นตรงต่อฝ่ายบริหาร เป็นจุดศูนย์กลางประสานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกลาง มลรัฐ
               รัฐบาลท้องถิ่น และภาคธุรกิจ มีหน้าที่หลักในการออกระเบียบ วางแผนทบทวนแผน
               ตรวจสอบ กำหนดมาตรฐาน ป้องกันและควบคุมมลพิษทางอากาศ หากพบผู้ละเมิด EPA
               สามารถออกคำเตือน ออกคำสั่งให้แก้ไข รวมไปถึงมีอำนาจในการสั่งลงโทษกิจการที่ฝ่าฝืนรัฐ
               บัญญัติ ปรับ และฟ้องศาลได้
        การประชุมกลุ่มย่อยที่ 4   ประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะห้าปี (Five-Year Plan) ฉบับที่ 13

                       ประเทศจีนเริ่มจริงจังกับการจัดการมลพิษทางอากาศเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน


               (ปี ค.ศ. 2016–2020) เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมนิเวศวิทยาไปในทางที่ดีขึ้นในทุกด้านภายใน

               20 ปี (CCP, 2016) และปรับโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐในปี 2017 เพื่อประสิทธิภาพ
   161   162   163   164   165   166   167   168   169   170   171