Page 31 - kpiebook65071
P. 31
30 บทบัญญัติทางกฎหมายว่าด้วยสิทธิที่จะถูกลืม (Right to be Forgotten)
และแนวทางแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเขตปกครองพิเศษไต้หวัน (Personal
Data Protection Act 2015 : TW PDPA 2015) กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคลของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง (Hong Kong Personal Data
(Privacy) Ordinance : HK PDPO 1996) กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ของประเทศฟิลิปปินส์ (Data Protection 2012 : PH PDA 2012) และ
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศสิงคโปร์ (Personal Data
Protection Act 2012 : SG PDPA 2012) เหล่านี้จะช่วยให้การเปรียบเทียบ
ครอบคลุมไปถึงการคุ้มครองสิทธิที่จะถูกลืมนอกสหภาพยุโรป
อย่างไรก็ตาม การวิจัยกฎหมายในเชิงเปรียบเทียบนั้น จำาเป็นที่จะ
ต้องก้าวออกจากการวิเคราะห์เพียงตัวบทกฎหมายและศึกษาถึงข้อเท็จจริง
ในสังคมในประเทศเพื่อแสดงให้เห็นว่ากฎหมายนั้นสามารถคุ้มครอง
4
สิทธิที่จะถูกลืมในทางปฏิบัติได้เพียงใด ข้อเท็จจริงดังกล่าวถูกแสดงผ่าน
คำาวินิจฉัยของศาลและคำาวินิจฉัยของหน่วยงานรัฐซึ่งเผยให้เห็นถึงข้อเท็จจริง
และความท้าทายของการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิที่จะถูกลืม
ในทางปฏิบัติคำาวินิจฉัยกลุ่มที่หนึ่งเป็นคำาวินิจฉัยที่แสดงให้เห็นถึงปัญหา
และความจำาเป็นที่จะต้องคุ้มครองสิทธิที่จะถูกลืม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
5
ในบริบทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในระบบสืบค้นออนไลน์ คำาวินิจฉัย
ของศาลกลุ่มที่สองเป็นคำาวินิจฉัยที่แสดงให้เห็นถึงเนื้อหาของสิทธิที่จะถูกลืม
และหน้าที่ในการดำาเนินการของบุคคลที่มีหน้าที่ต้องดำาเนินการลบหรือทำาลาย
ข้อมูลส่วนบุคคล คำาวินิจฉัยของศาลกลุ่มที่สามเป็นคำาวินิจฉัยที่แสดงถึงข้อจำากัด
6
4 Ibid.
5 เช่น คดี Google Spain v AEPD and Mario Costeja González (ในสหภาพ
ยุโรป) กรณี Uber B.V. ในประเทศออสเตเรีย และ X v Privacy Commissioner for
Personal Data (Administistrative Appeal No. 15/2019) (ในฮ่องกง)
6 คดี Google ในศาลฎีกาของประเทศญี่ปุ่นและกรณี David Webb Case (ในฮ่องกง)