Page 207 - kpiebook65071
P. 207

206   บทบัญญัติทางกฎหมายว่าด้วยสิทธิที่จะถูกลืม (Right to be Forgotten)
             และแนวทางแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง


                   ดังนั้น ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นผู้ให้บริการสืบค้นข้อมูล

          ส่วนบุคคล เช่น Google อาจดำาเนินการเพียงการนำาข้อมูลออกจาก
          ผลการค้นหาก็ถือได้ว่าเป็นการดำาเนินการเพื่อความคุ้มครองความเป็นส่วนตัว
          ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว โดยไม่ต้องทำาการลบหรือทำาลายข้อมูลส่วนบุคคล

          ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่ถูกเผยแพร่โดยบุคคลอีกคนหนึ่ง เช่น สำานักพิมพ์ เป็นต้น



          5.1.3 ผู้ควบคุมข้อมูลซึ่งมิได้อยู่ในราชอาณาจักรไทย


                   การคุ้มครองสิทธิที่จะถูกลืมนี้ ไม่ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
          ในทุกประเทศ ด้วยเหตุนี้ การคุ้มครองสิทธิในความเป็นส่วนตัวในมิติของ
          การร้องขอให้นำาข้อมูลออกจากระบบนั้น จะต้องคำานึงถึงกรอบทางกฎหมาย

          และระดับการคุ้มครองสิทธินี้ในแต่ละประเทศอีกด้วย กรณีศึกษาซึ่งได้แสดง
          ในบทที่ 3 และบทวิเคราะห์ในบทที่ 4 ได้แสดงให้เห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคล

          ซึ่งถูกแสดงผ่านระบบการสืบค้นข้อมูลและสามารถเข้าถึงได้โดยผ่านระบบ
          อินเทอร์เน็ตนั้น มีข้อจำากัดในการจะถูกลืม เนื่องจากตัวผู้ให้บริการระบบ
          สืบค้นข้อมูลออนไลน์นั้นตั้งอยู่ในประเทศที่เป็นคนละประเทศกับเจ้าของข้อมูล

          ส่วนบุคคล และอาจเป็นไปได้ที่กฎหมายในประเทศที่ผู้ให้บริการระบบสืบค้น
          ข้อมูลออนไลน์นั้น ไม่ได้รับรองและคุ้มครองสิทธิที่จะถูกลืมในระดับที่เท่าเทียม

          กับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่

                   ดังที่ได้วิเคราะห์ในบทที่ 4 หากผู้ให้บริการระบบสืบค้นข้อมูล
          ออนไลน์เฝ้าติดตามพฤติกรรมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้น

          ในราชอาณาจักรและแสดงผลเกี่ยวกับพฤติกรรมดังกล่าว ผู้ให้บริการระบบ
          สืบค้นข้อมูลดังกล่าวย่อมตกอยู่ในบังคับของมาตรา 33 และมาตรา 37 (3) ของ

          พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ตัวบทกฎหมายในปัจจุบัน
          จึงไม่ได้มีปัญหาที่ว่าไม่อาจครอบคลุมการดำาเนินกิจกรรมของผู้ให้บริการระบบ
   202   203   204   205   206   207   208   209   210   211   212