Page 113 - kpiebook65057
P. 113
การมีผลในทางลบจากนโยบายหรือการลงทุนของนักธุรกิจที่อยู่ในระบบทุนนิยม
ประชาชนจึงมีอำนาจที่จะคุ้มครองและอนุรักษ์ชุมชนของตนตามที่บัญญัติไว้
ในมาตรา 66 และ 67 ในส่วนนี้ย่อมเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทางการเมือง
อย่างแข็งขันซึ่งเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งของการเมืองภาคประชาชน
3. การทำประชาพิจารณ์ ตามที่มีการบัญญัติรับรองไว้ในมาตรา 57 และ
58 ซึ่งถือเป็นส่วนสําคัญของการเมืองภาคประชาชน กล่าวคือ ประชาชนมีสิทธิที่จะ
ประชาพิจารณ์โครงการสําคัญของ ฝ่�ายบริหารที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่
ของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพแวดล้อม ฯลฯ เพื่อให้การตัดสินนโยบายของฝ่�ายรัฐ
ได้รับการพิจารณารอบด้านและฟื้ังเสียงของประชาชนผู้เป็น เจ้าของประเทศและ
ประชาชนในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการของฝ่�ายบริหาร
4. การลงประชามติ ในกรณีที่มีเรื่องสําคัญเกินกว่าอํานาจและความรับผิดชอบ
ของตัวแทน ของประชาชนคือรัฐสภา ประชาชนต้องมีบทบาทในการตัดสินใจ
ด้วยตนเองโดยการลงประชามติ ซึ่งหมายความว่าเป็นการตัดสินนโยบายโดยผู้มีสิทธิ
ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วทั้งประเทศ
5. อํานาจในการเสนอให้มีการถอดถอนผู้บริหารระดับสูง โดยประชาชน
จํานวน 20,000 คนมี อํานาจในการเข้าชื่อเพื่อเสนอให้มีการถอดถอนผู้บริหารระดับสูง
ที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจหรือมี พฤติกรรมทุจริต ทั้งในระดับชาติ ตามที่บัญญัติ
ไว้ในมาตรา 164 มาตรา 271 และในระดับท้องถิ่น ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 285
6. การเสนอกฎหมาย ประชาชนจํานวน 10,000 คน มีสิทธิเข้าชื่อกันเพื่อ
เสนอกฎหมายเกี่ยวกับ หมวด 3 (สิทธิเสรีภาพของประชาชน) และหมวด 5 (แนวนโยบาย
พื้นฐานแห่งรัฐ) ซึ่งได้บัญญัติไว้ใน มาตรา 142 (4) และในการปกครองส่วนท้องถิ่น
ประชาชนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมีสิทธิ เสนอการออกข้อบัญญัติท้องถิ่น
ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 286
58