Page 256 - kpiebook65056
P. 256
254 ผู้ นร รสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว 255
พรรคพวกที่เป นรัฐมนตรีสายอนุรักษ์คงเห็นชอบด้วย การปรารภถ ง พระยาพิชัยสงคราม กับนายพันเอก พระยาศรีสิทธิสงคราม นอกจากนั้น
การลาออกของสี่ทหารเสือที่จะลาออกนั้น ได้เริ่มข ้นในวันที่ 10 มิถุนายน 2476 ในวันเดียวกันได้แต่งตั้งให้นายทหารคนแรกเป นผู้รักษาการผู้บั ชาการทหารบก
และที่แสดงท่าทีจะลาออกนั้น อาจเป นไปได้ว่าเพราะเห็นว่า พระยามโนฯ และนายทหารคนที่ 2 เป นผู้รักษาการเจ้ากรมยุทธการทหารบก การแต่งตั้ง
ไม่ยอมเป ดสภาฯ ก็ได้ จ งต้องแสดงความไม่สบายใจให้ปราก เพราะหลังจาก ทั้งหมดนี้ พระยามโนฯ นายกรัฐมนตรีเป นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
วันที่พระยาพหลฯ ถามถ งเรื่องการเป ดสภาฯ มาได้ 9 วัน และเมื่อสี่ทหารเสือ จ งเป นผู้ที่ต้องรับผิดชอบตามที่รัฐธรรมนู กำาหนดไว้ ที่น่าสังเกตก็คือ
บอกจะลาออก พระยามโนฯ จ งได้รีบประกาศพระราชบั ัติแก้ไขเพิ่มเติม นายทหาร 2 คนที่ตั้งมานี้ พระยาพิชัยสงครามคือ ผู้บั ชาการกองทัพที่ 1
กฎหมายเลือกตั้งในวันที่ 14 มิถุนายน 2476 ด้วย เพราะพระยามโนฯ ต้องการ อยู่ในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 และเป นผู้ที่เตรียมการจะตอบโต้การย ดอำานาจ
แก้ไขสิ่งที่คณะราษฎรเห็นว่าสำาคั คือ อายุของประชาชนผู้ใช้สิทธิ เลือกตั้ง ของคณะราษฎร แต่พระเจ้าอยู่หัวไม่ทรงเห็นด้วย สำาหรับพระยาศรีสิทธิ ฯ นั้น
ที่เดิมกำาหนดไว้ตั้งแต่ 20 ป บริบูรณ์ เป น 25 ป บริบูรณ์ ต้องไม่ลืมว่าในธรรมนู หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ได้ถูกคำาสั่ง
การปกครองฯ ที่คณะราษฎรร่างและประกาศใช้เป นกติกาการปกครองระบอบ ย้ายออกจากงานในกองทัพไปทำางานที่กระทรวงธรรมการ ครั้งนี้เป นการย้าย
ใหม่ฉบับแรกนั้น ได้ระบุชัดเจนให้ผู้มีอายุครบ 20 ป บริบูรณ์มีสิทธิ ออกเสียง กลับมาที่กองทัพ แต่ในคำาสั่งตั้งนายทหารฉบับเดียวกันนี้ ยังมีตัวละคร
เลือกตั้ง และเมื่อร่างกฎหมายเลือกตั้งฉบับแรก ก็ได้ยืนยันเรื่องอายุของ สำาคั อีกหน ่งคนคือ หลวงพิบูลสงคราม เพราะได้มีคำาสั่งตั้งนายพันโท
ผู้มีสิทธิ ออกเสียงเลือกตั้ง เริ่มต้นตั้งแต่ 20 ป บริบูรณ์เอาไว้ ดังนั้นการแก้ หลวงพิบูลสงคราม รองผู้บังคับการทหารป นให ่ ให้เป นผู้รักษาราชการ
เรื่องอย่างนี้ พระยามโนฯ จ งน่าจะอยากให้รัฐมนตรีที่เป นผู้ก่อการฯ หรือ ในตำาแหน่งผู้ช่วยผู้บั ชาการทหารบก ายยุทธการอีกตำาแหน่งหน ่ง ตรงนี้
สมาชิกคณะราษฎรร่วมรับผิดชอบด้วย นั่นคือยังร่วมอยู่ในรัฐบาลในขณะที่มี สำาคั มาก เพราะทำาให้หลวงพิบูลสงคราม ซ ่งยังคงครองตำาแหน่งเดิม และได้
การแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งฉบับที่ 1 เลื่อนตำาแหน่งมารักษาการตำาแหน่งสำาคั ในกองทัพบก โดยเป นหมายเลข 2
รองจากผู้บั ชาการทหารบก ตำาแหน่งนี้เป นตำาแหน่งเก่าที่พระยาทรงฯ ครอง
เมื่อสี่ทหารเสือเขียนใบลาออกในวันที่ 18 มิถุนายน 2475
ให้มีผลในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 โดยส่งผ่านนายกรัฐมนตรีผู้เป นหัวหน้า อยู่ก่อนลาออก การที่หลวงพิบูลสงครามได้ตำาแหน่งนี้ เป นเพราะพระยามโนฯ
รัฐบาล ก่อนหน้านี้มีนายกรัฐมนตรีพระยามโนฯ กับพระยาศรีวิสารฯ ได้ไป นายกรัฐมนตรี และพระยาราชวังสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
6
เ าพระเจ้าอยู่หัวที่วังไกลกังวล ดังนั้นผู้ที่นำาเรื่องข ้นถวายพระเจ้าอยู่หัวคือ ได้เชื่อนายประยูร ภมรมนตรี แนะนำา
นายกรัฐมนตรี แผนการนี้จ งเป นแผนการของพระยามโนฯ บุคคลที่คณะราษฎร
หวังจะให้เป น ตัวกลาง ประสานและดำาเนินการพัฒนาการปกครอง
แต่ที่แน่นอนก็คือ ในวันที่ 18 มิถุนายน 2476 พระยามโนฯ
ได้รับสนองพระบรมราชโองการตั้งรัฐมนตรีใหม่ 2 นาย แทนพระยาพหลฯ ในระบอบรัฐธรรมนู ให้เดินหน้าต่อไป ซ ่งพระยามโนฯ ก็ได้ร่วมมือกับ
และคณะ หลังจากมีพระบรมราชานุ าตให้รัฐมนตรีลาออก และอนุ าต คณะราษฎรทำามาได้ ในการเป นประธานคณะกรรมการราษฎรหรือหัวหน้า
ให้ลาออกจากตำาแหน่งทางทหารด้วย รัฐมนตรีที่ตั้งใหม่ได้แก่ นายพลตรี รัฐบาล ก่อนที่จะมีรัฐธรรมนู นั่นเอง แต่เมื่อมีรัฐธรรมนู ฉบับถาวร และ