Page 264 - kpiebook65043
P. 264

264   สรุปการประชุมวิชาการ
           สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23
         ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่


           ตามพัฒนาการของสังคม การรักษาพยาบาลในอดีตส่วนใหญ่เป็นตามความต้องการและอำนาจ
           การตัดสินใจของแพทย์แต่ลำพัง (Doctor Autonomy) แต่เมื่อสังคมได้รับอิทธิพลจากแนวคิด
           ปัจเจกชนและประชาธิปไตย ทำให้ยอมรับว่าผู้ป่วยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรักษาพยาบาล
           มีอำนาจและอิสระในการตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาด้วยตนเองได้ (Patient Autonomy)

           จึงทำให้เกิดหลักการยินยอมในการรักษาพยาบาล (Informed consent) ซึ่งเป็นการแสดงถึง
           การเคารพสิทธิและเสรีภาพของมนุษย์ สิทธิในชีวิตและร่างกายตลอดจนสิทธิในความเป็น
           ส่วนตัวของผู้ป่วย (แสวง บุญเฉลิมวิภาส และคณะ, 2564) และปัจจุบันแนวคิดเรื่องสุขภาพได้

           เปลี่ยนแปลงไปอีกระดับหนึ่งคือยังคำนึงถึงบริบทของสังคมและชุมชนด้วย เนื่องจากสาเหตุของ
           ความเจ็บป่วยในปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่เกิดจากเชื้อโรคเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยด้านพฤติกรรมและ
           สังคมที่ก่อให้เกิดความเจ็บป่วยหรือที่เรียกว่าปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social determinant
           of health)(สุนีย์ สุขร่าง บรรณาธิการ, 2560) ดังนั้นระบบสุขภาพจึงต้องให้ความสำคัญ
           กับสิทธิผู้ป่วย ความต้องการของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต โดยเชื่อมโยง

           กับบริบทของสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่ปัญหาคือปัจจุบันบุคลากรสุขภาพไทยมองสุขภาพผ่าน
           มิติทางการแพทย์เท่านั้น ไม่ค่อยคำนึงถึงสิทธิผู้ป่วย จำกัดบทบาทตนเองไว้ที่มิติทางการแพทย์
           ซึ่งเป็นการมองระบบสุขภาพในลักษณะที่แยกขาดจากมิติอื่นของสังคม

                 ดังนั้นโดยสรุป เมื่อมีความจำเป็นทางประชากรศาสตร์ที่มีผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่โรคที่เป็น

           โรคที่ไม่อาจรักษาให้หายได้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจและสังคมก็มีการพัฒนาไปจน
           ทำให้เกิดสังคมเมือง ทัศนคติที่เกี่ยวกับความตายเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งประชากรมีสำนึก
           ในเรื่องสิทธิและเสรีภาพมากยิ่งขึ้น เหล่านี้ทำให้รูปแบบและบริบททางการแพทย์จะต้อง

           เปลี่ยนแปลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาศาสตร์ในเรื่องการดูแลแบบ
           ประคับประคองที่มีองค์ความรู้เฉพาะที่เหมาะสมกับศาสนา วัฒนธรรมและประเพณีไทย

                 ในต่างประเทศมีการศึกษาเป็นจำนวนมากพบว่าการดูแลแบบประคับประคองช่วยเพิ่ม
           คุณภาพชีวิตและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในทุกระดับของการดูแล ช่วยลดการกลับเข้า

           รักษาตัวในโรงพยาบาล (readmission rates) ลดการเข้ารักษาตัวในหอผู้ป่วยระยะวิกฤต
           และเพิ่มความพึงพอใจในการรักษาให้ผู้ป่วยและครอบครัว การมีการดูแลแบบประคับประคอง
           ในการดูแลที่บ้านช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแล และลดการมาห้องฉุกเฉิน ลดการกลับเข้ารักษาตัว
           ในโรงพยาบาล รวมถึงลดระยะเวลานอนโรงพยาบาล การมีระบบการดูแลแบบประคับประคอง

           ที่บ้าน ช่วยลดค่าใช้จ่ายและสร้างความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ จะเห็นได้ว่าการดูแลแบบประคับ
           ประคอง เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องพัฒนาให้เกิดระบบบริการที่มีคุณภาพที่ผู้ป่วยระยะท้าย
    บทความที่ผ่านการพิจารณา   และครอบครัวต้องเข้าถึงได้ ทั้งในโรงพยาบาลและที่บ้าน (กรมการแพทย์, 2563)
   259   260   261   262   263   264   265   266   267   268   269