Page 182 - kpiebook65024
P. 182
181
ถ้าหากอ�านาจทั้งสามฝ่าย คือ อ�านาจนิติบัญญัติ อ�านาจบริหาร และอ�านาจตัดสิน
ไม่แยกออกจากกัน เพื่อให้เกิดการต้านถ่วงดุลระหว่างกัน แต่ไปรวมอยู่ที่คนคนเดียว
หรือองค์กรเดียวกัน” (ถาวร เกียรติทับทิว, 2546) ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงมีความส�าคัญ
ในฐานะเป็นผู้มีบทบาทในการบริหารราชการแผ่นดินในส่วนของอ�านาจบริหาร
ตามหลักการแบ่งแยกอ�านาจนั่นเอง
2. ที่มาจากประชาชน: องค์ประกอบของคณะรัฐมนตรี
ตามหลักการแบ่งแยกอ�านาจดังกล่าวน�ามาสู่อ�านาจบริหารหรือสถาบันบริหาร
ซึ่งหมายถึง บุคคล คณะบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรที่น�านโยบาย และน�ากฎหมาย
ที่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาแล้วไปด�าเนินการหรือปฏิบัติ ทั้งในด้านปกครอง
หรือบริหารประเทศ โดยแบ่งเป็นกระทรวง กรมต่าง ๆ รวมทั้งด้านการทหาร และ
ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยการบริหารผ่านคณะรัฐมนตรีมีองค์ประกอบ
ของคณะรัฐมนตรีปรากฏตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
มาตรา 158 วรรคหนึ่ง “พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่น
อีกไม่เกินสามสิบห้าคน ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน
ตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน” เมื่อพิจารณาในส่วนของนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลที่สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบร่วมกัน ดังนั้น
องค์ประกอบของคณะรัฐมนตรี ได้แก่ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีกไม่เกิน 35 คน
ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากบุคคลที่ประชาชนเลือกให้ความเห็นชอบ ฉะนั้น
ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยการด�ารงต�าแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี
จึงเป็นบุคคลที่เสมือนหนึ่งได้รับการคัดเลือกจากประชาชนในทางอ้อมนั่นเอง