Page 156 - kpiebook65024
P. 156

155




           ที่จะเข้าไปใช้อ�านาจรัฐบาลอันจะท�าให้มีสิทธิในการบริหารปกครองเพื่อผลประโยชน์

           จากการได้มาซึ่งอ�านาจทางการเมือง

                  กล่าวโดยสรุป พรรคการเมือง คือ สถาบันหนึ่งที่มีการจัดตั้งและรวมกลุ่ม

           ของกลุ่มบุคคลที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองและการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน
           หรือมีแนวความคิดความเห็นในทางการเมืองที่เหมือนกัน โดยมีกระบวนการพัฒนา

           และสร้างนโยบายเพื่อเสนอต่อรัฐสภาเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาสภาพทางการเมือง
           ที่ยังไม่มีความเป็นปึกแผ่นและไม่มีความเป็นเอกภาพ



           3. ประเภทของพรรคการเมือง


                  Maurice Duverger ได้จ�าแนกประเภทของพรรคการเมืองออกเป็น 3 ประเภท

           (วิทยา นภาศิริกุล และสุรพล ราชภัณฑารักษ์, 2539) ดังนี้


                     1)   พรรคชนชั้นนำ� (Cadre Party) หรือพรรคดั้งเดิม (Traditional Party)
                         เป็นลักษณะของกลุ่มการเมืองของชนชั้นสูงที่มีบุคคลมารวมกลุ่มกัน

                         โดยจะมีเพียงบุคคลคนเดียวที่มีอ�านาจหรืออิทธิพลเหนือทุกคน
                         ซึ่งส่วนใหญ่บุคคลเหล่านี้มักจะเป็นกลุ่มขุนนางอ�ามาตย์ที่มีอ�านาจ

                         ในราชส�านัก ดังนั้น พรรคชนชั้นน�าจึงเป็นพรรคการเมืองที่ประกอบ
                         ไปด้วย สมาชิกที่มีฐานะดีในสังคมที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลในทาง

                         เศรษฐกิจ เช่น กลุ่มขุนนางผู้มีบรรดาศักดิ์มีเกียรติยศมีทรัพย์สมบัติ
                         หรือเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในวงการค้า เป็นต้น

                     2)   พรรคแบบมวลชน (Mass Party) เป็นพรรคที่ถือก�าเนิดในปลาย
                         คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยเป็นการรวมกลุ่มสังคมนิยมหรือขบวนการ

                         สังคมนิยม (Socialist Movements) จากกลุ่มและขบวนการ
   151   152   153   154   155   156   157   158   159   160   161