Page 7 - kpiebook65015
P. 7

6   ประเด็นส�ำคัญที่พึงมีและควรแก้ไขตำมรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช 2560 :
          การได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร






        แต่ก�าหนดให้เหลือการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งแต่เพียงอย่างเดียว จึงถูกเรียกว่า
        “ระบบบัตรใบเดียว” ซึ่งมีปัญหามากมายหลายประการจึงเกิดการแก้ไขเพิ่มเติม

        รัฐธรรมนูญเรื่องระบบเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2564

               รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ได้เปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้ง

        ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ให้กลับมาใช้ ระบบคู่ขนำน แบบรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540
        และรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2554 ท�าให้ปัญหาของระบบเลือกตั้งนี้

        ที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ได้ยุติลงไป อย่างไรก็ตาม การกลับไปหา
        ระบบคู่ขนานของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2554

        ที่มี ระบบเสียงข้ำงมำกธรรมดำเขตละคน 400 คน ซึ่งคิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของ ส.ส.
        ทั้งหมดคือ การกลับไปหาระบบเลือกตั้งที่มีเพียงพรรคใหญ่ที่สุดได้เปรียบเพียงพรรคเดียว

        และท�าให้พรรคทั้งหมดที่เหลือเสียเปรียบจากปัญหา “คะแนนตกน�้า” และถึงแม้ว่า
        จะมี ส.ส. บัญชีรายชื่อ 100 คน และไม่มีด่านขั้นต�่า จึงเปิดโอกาสให้พรรคเล็กสามารถ

        ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ แต่จ�านวน ส.ส. บัญชีรายชื่อเพียง 100 คนเป็นจ�านวน ส.ส.
        เพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ระบบเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2564

        แม้ว่าจะดีกว่าระบบเลือกตั้ง “จัดสรรปันส่วนผสม” ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560
        แต่ก็ยังไม่ใช่ระบบเลือกตั้ง ส.ส. ที่ดีที่สุด หรือเหมาะสมที่สุดส�าหรับประเทศไทย


               ผู้วิจัยเสนอให้ใช้ ระบบเลือกตั้งสัดส่วนผสม (Mixed Member Proportional
        System – MMP) หรือระบบเลือกตั้งแบบเยอรมัน ซึ่งใช้คะแนนที่เลือก ส.ส.แบบ

        บัญชีรายชื่อเป็นคะแนนที่ก�าหนดจ�านวน “ส.ส.พึงมี” ซึ่งจะท�าให้สองคะแนนเป็น
        การเลือกได้ทั้งเลือกคนและเลือกพรรคได้อย่างแท้จริง หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12