Page 127 - kpiebook64008
P. 127
บทที่ 5
การน าเสนอข้อมูลแบบส ารวจปัจจัยและพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2563
ในบทนี้ ผู้วิจัยน าเสนอข้อมูลวิจัยเชิงส ารวจจากการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบส ารวจเชิงปริมาณที่น ามา
วิเคราะห์ด้วยค่าร้อยละ โดยการน าเสนอจะน าเสนอเป็นตารางค่าร้อยละ ประกอบกับแผนภูมิรูปภาพ ทั้งกลุ่ม
นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่จ านวน 400 ตัวอย่าง และกลุ่มประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดเชียงใหม่
จ านวน 236 โดยอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตอ าเภอเมืองและอ าเภอรอบนอกที่มีการแข่งขันทางการเมืองในพื้นที่จาก
ฐานข้อมูลการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 โดยข้อมูลที่จะน าเสนอในบทนี้จะเป็นข้อมูลเกี่ยวข้องกับ
พฤติกรรมและปัจจัยในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาองค์การ
บริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2563 จากการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 20 ธันวาคม
พ.ศ. 2563 สะท้อนภูมิรัฐศาสตร์ของจังหวัดเชียงใหม่ได้อย่างดี การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างกลุ่มการเมืองกับ
พรรคการเมืองทั้งผู้สมัครนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ. สะท้อนนัยยะส าคัญทางการเมืองของจังหวัดเชียงใหม่
ที่จะส่งผลต่อการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นอื่นๆ ที่ตามมาไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งเทศบาลและองค์การบริหารส่วน
ต าบล (อบต.) และเป็นทิศทางของการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อสร้างความพร้อมในการเลือกตั้งทั่วไปที่อาจจะเกิด
ไม่ตามวาระ แต่ตามสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม การส ารวจความคิดเห็นของประชาชนและปัจจัยในลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง มีส่วนเกี่ยวข้อง
กับบทบาทของ อบจ. เพื่อให้เห็นความเข้าใจของประชาชนที่มีการเสนอความคิดเห็นเชื่อมโยงกับความคาดหวัง
ในบทบาทหน้าที่ อบจ.ที่พึงมี หากสรุปประเด็นของบทบาทหน้าที่ อบจ. ตาม พ.ร.บ. องค์การบริหารส่วนจังหวัด
พ.ศ. 2540 และ พ.ร.บ.ก าหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอ านาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
จึงสามารถสรุปได้ดังนี้ (ช านาญ จันทร์เรือง, 2563)
1. อบจ. มีหน้าที่สนับสนุนสภาต าบลและราชการส่วนท้องถิ่นอื่นในการพัฒนาท้องถิ่น เช่น การอุดหนุน
งบประมาณให้ อบต./เทศบาลน าไปใช้จัดบริการสาธารณะ เช่น ถนน สะพาน โดยเฉพาะ หน่วยการ
ปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีรายได้น้อย ในหลักการช่วยลดความเหลื่อมล้ าการพัฒนาในพื้นที่จังหวัด
แต่หากมองในทางการเมืองถือเป็นการสร้างกลไกอุปถัมภ์ทางการเมืองระหว่าง อบจ. กับหน่วยการ
ปกครองส่วนท้องถิ่น นักการเมืองท้องถิ่นในระดับเทศบาลกับ อบต. การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่มี
ผลต่อการพัฒนาพื้นที่ อบต.หรือเทศบาลขนาดเล็กผ่านระบบงบประมาณ เป็นกระบวนการสร้างการ
พึ่งพิงเชิงนโยบายการเมืองได้เช่นกัน
2. อบจ. ท าหน้าเป็นผู้เชื่อมประสานระหว่างภาคส่วนต่างๆ ทั้งเอกชน ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ
รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่นอื่น สามารถเรียกค่าบริการได้ โดยตราเป็นข้อบัญญัติ เช่น อบจ.
เชียงใหม่มีข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมบ ารุง
องค์การบริหารส่วนจังหวัดจากผู้พักในโรงแรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 หรือ การประกาศของ อบจ.
เรื่อง การน ามูลฝอยเข้าจัดการในศูนย์จัดการขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร. ขององค์การบริหารส่วน
จังหวัดเชียงใหม่ อ าเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2562
โครงการศึกษาการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ปี 2563: การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 106