Page 28 - kpiebook63032
P. 28
27
1.3.4.2 พฤติกรรมการเลือกตั้ง
เป็นการศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบในทุกประเด็น เช่น การเลือกตั้งในครั้งนี้มีความเหมือน
หรือแตกต่างจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาหรือไม่ มีประเด็นใดบ้างมีการเปลี่ยนแปลงที่สำาคัญในเรื่องใดและ
ส่งผลกระทบสำาคัญในเรื่องการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยอย่างไร นอกจากนี้ ยังศึกษาความแตกต่าง
หลากหลายของผู้สมัครในมิติความหลากหลายทางเพศ ชาติพันธุ์ ลักษณะทางกายภาพ (พิการ) และการ
ทำางานในพื้นที่รวมถึงการแข่งขันทางการเมืองทั้งในส่วนที่สามารถเห็นได้ชัดเจน เช่น การรณรงค์หาเสียง
กลยุทธ์ วิธีการนำาเสนอนโยบาย ตลอดจนการแข่งขันในส่วนที่ปิดบัง เช่น การซื้อเสียง การใช้อิทธิพลของ
หน่วยงานการแทรกแซงโดยวิธีการต่างๆ เป็นต้น
1.3.4.3 การใช้เงินหาเสียงในการเลือกตั้ง
1) ศึกษาผลการบังคับใช้มาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งตามกฎหมาย
ใหม่ โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบเจตนารมณ์ของกฎหมายกับผลที่เกิดขึ้นจริง
ในระดับพื้นที่ ผ่านการศึกษาบทบาทและวิธีการปฏิบัติงานของผู้จัดการเลือกตั้ง
ว่ามีวิธีการควบคุมตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรคการเมือง
นักการเมืองในพื้นที่อย่างไร ได้ผลหรือไม่ และพฤติกรรมของผู้สมัคร
พรรคการเมืองว่ามีปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่มี
ความพยายามที่จะหลบเลี่ยงกฎหมายหรือไม่อย่างไร
2) อิทธิพลของการใช้จ่ายเงินของผู้สมัครและพรรคการเมืองมีต่อประชาชน
และผลของการเลือกตั้งทั้งการใช้จ่ายเงินที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย
โดยให้ความสำาคัญกับการสำารวจในพื้นที่ว่ายังมีการซื้อสิทธิขายเสียงอยู่หรือ
ไม่ มีรูปแบบหรือกระบวนการอย่างไรในการหาเสียง หรือหากมีการให้เป็น
ผลประโยชน์อื่นนอกจากตัวเงินผลประโยชน์ดังกล่าวคืออะไร เป็นการแลก
เปลี่ยนผลประโยชน์ในรูปแบบใดและการซื้อเสียงไม่ว่าจะในรูปแบบใดยังมี
อิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งหรือไม่อย่างไร
3) สังเกตและชี้วัดความรู้สึกถึงทัศนคติและการให้เหตุผลของบุคคลทั่วไปในการ
รับรู้เกี่ยวกับการซื้อเสียงและผลประโยชน์และสร้างเครือข่ายอุปถัมภ์ในพื้นที่
โดยพิจารณาว่าประชาชนทั่วไปสามารถยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้หรือไม่ อย่างไร