Page 17 - kpiebook63030
P. 17
16 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562
จังหวัดปัตตานี
แม้จะมีการจำากัดการแสดงออกทางการเมือง แต่ในระยะเวลาที่ผ่านมากลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ
หลายกลุ่ม ประสบความสำาเร็จในการสร้างความเป็นสถาบันทางการเมืองให้กับตนเอง โดยพัฒนาไปเป็น
พรรคการเมือง เช่น กลุ่ม กปปส. ที่กลายไปเป็นพรรครวมพลังประชาชาติไทย กลุ่มของนายไพบูลย์ นิติตะวัน
ที่ได้พัฒนาไปเป็นพรรคประชาชนปฏิรูป และกลุ่มที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของ 4 รัฐมนตรี ได้แก่ พรรค
พลังประชารัฐ ตลอดจนมีกลุ่มนักกิจกรรมสังคมที่มีความสนใจที่จะตั้งพรรคการเมือง เช่น พรรคอนาคตใหม่
ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ รศ.ดร. ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และการประกาศเปลี่ยนอุดมการณ์เพื่อย้ายพรรคการเมืองของ
นักการเมืองหลายคนที่ต้องปรับตัวภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่
นอกจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้ว ในส่วนของรัฐบาลเอง ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญอีก 3 ฉบับ ได้แก่
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พระราชบัญญัติประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
จากโครงสร้างดังกล่าวนี้ ได้ส่งผลให้การเลือกตั้งแตกต่างจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาตั้งแต่หลังปี
พ.ศ. 2544 โดยสิ้นเชิง เช่น การเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว โดยใช้การนับคะแนนแบบจัดสรรปันส่วนผสม
ยังมีมาตรการใหม่ที่กำาหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการเลือกตั้งขั้นต้น (แม้ภายหลังจะมีมาตรา 44 ออกมา
สร้างความยืดหยุ่นให้กับมาตรการดังกล่าว) เงื่อนไขใหม่เกี่ยวกับการจัดตั้งพรรคการเมือง หน้าที่และ
สถานภาพของสมาชิกพรรคการเมือง และคณะกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งการกำาหนดโทษของ
พรรคการเมืองไว้สูงมาก การกำาหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรคการเมืองและวิธีการ
หาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองในมาตรา 62-83 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
การเลือกตั้ง บทบาทที่เพิ่มมากขึ้นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมกับการประกาศยุทธศาสตร์ชาติ
20 ปี และแผนการปฏิรูปประเทศ 13 ด้าน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกติกา หรือบทบัญญัติใหม่ที่เกิดขึ้น ที่จะส่งผล
ต่อโครงสร้างทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงของสถาบันการเมืองไทยอีกหลายสถาบัน ซึ่งยังไม่นับถึง
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญอีกหลายฉบับ ที่ให้บทบาทหน้าที่กับองค์กรอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งจะมีผล
ต่ออำานาจและบทบาทของผู้แทนราษฎรและรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้ง
ด้วยการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างทางอำานาจ และโครงสร้างของสถาบันการเมืองในช่วงระยะ
เวลา 8 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นที่จับตามองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะสามารถบรรเทาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมา
เป็นระยะเวลากว่าทศวรรษได้หรือไม่ และจะทำาให้ประเทศไทยเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ที่มีคุณภาพ
ได้หรือไม่ จะทำาให้การปฏิรูปการเมืองเกิดขึ้นจริงหรือไม่ พฤติกรรมทางการเมืองของประชาชนจะมี
การเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ประชาชนมีการเรียนรู้ทางการเมืองมากขึ้นหรือไม่ และภายใต้กรอบกติกาใหม่นี้
ผลของการเลือกตั้งยังจะยืนยันความตั้งมั่นของระบบพรรคการเมือง หรือความเข้มแข็งของพรรคการเมือง
บางพรรคที่เคยก่อร่างสร้างตัวมาจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ได้หรือไม่