Page 90 - kpiebook63029
P. 90

89








                          (3) กำรเลือกตั้งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรภำยใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560


                          ในการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ครั้งนี้ ได้มีระบบเลือกตั้ง

                  แบบใหม่ที่เรียกว่าแบบจัดสรรปันส่วนผสม เป็นการนับคะแนนจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
                  แบบแบ่งเขตเลือกตั้งมาคำานวณหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่ง

                  ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว โดยให้เลือกได้เฉพาะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
                  เท่านั้นเท่ากับว่าจะต้องตัดสินใจว่าจะเลือกคนหรือเลือกพรรค ระบบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญนี้

                  กำาหนดให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำานวน 500 คน แบ่งเป็น ส.ส. จากระบบแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
                  จำานวน 350 คน และ ส.ส. จากระบบแบบบัญชีรายชื่อ 150 คน ซึ่งการเลือกในระบบแบ่งเขตใช้ระบบ

                  เลือกแบบหนึ่งเขตหนึ่งคน และทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนเลือกนอกจากจะใช้เลือก ส.ส. แบบแบ่งเขตแล้ว
                  ยังใช้คำานวณจำานวนที่นั่ง ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ การเลือกตั้งแบบใหม่นี้ทำาให้เกิดความยุ่งยากในการ

                  นับคะแนน เนื่องจากว่ายิ่งพรรคได้จำานวน ส.ส. เขตมากเท่าใด จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อน้อยลงเท่านั้น
                  ทั้งยังไม่สะท้อนถึงเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งด้วย


                          จากการศึกษาพบว่าการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียวเป็นการบีบบังคับกลายๆ ให้คน

                  เลือกตัวบุคคลมากกว่าพรรคการเมืองซึ่งมีนโยบายเป็นจุดนำาเสนอพรรค ทำาให้มีผลต่อการตัดสินใจของ
                  ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง จากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ในสำานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำาจังหวัด
                  เลยคนหนึ่ง ได้กล่าวว่า “พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีการวางแผนที่ดี เรียกได้ว่าดีที่สุดจากทุกพรรค เพราะ

                  ศึกษาข้อกฎหมาย ระเบียบการเลือกตั้ง ทำาให้รู้ว่าพรรคต้องดำาเนินไปทิศทางใด ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้

                  พรรคที่ได้คะแนนมาก เปรียบเหมือนนำ้าที่เต็มโอ่ง แต่นำ้าที่ล้นลงมายังมีถาดรองอยู่ จึงมีการเกิดเบี้ยหัวแตก
                  แตกพรรคจากเพื่อไทยเป็นพรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ ตนคิดว่าพรรคใดที่ศึกษากฎหมายการเลือกตั้ง
                  ได้ดีที่สุด พรรคนั้นสามารถมีโอกาสชนะการเลือกตั้งได้มากที่สุด” (สัมภาษณ์ วันที่ 28 พฤษภาคม 2562)

                  การเกิดเบี้ยหัวแตกของพรรคเพื่อไทยนั้นคือ พรรคใดที่ได้คะแนนมาก จะทำาให้คะแนนเสียงเกินเกณฑ์ที่

                  กฎหมายกำาหนดไว้ คะแนนมากทำาให้มีโอกาสได้แบบบัญชีรายชื่อน้อย โดยพรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัคร
                  ลงแข่งแค่ 200 เขตเท่านั้น ส่วนเขตที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของพรรคไทยรักษาชาติ และพรรคที่แตกออกมา
                  ตามลำาดับ ยุทธศาสตร์นี้ถูกเรียกว่า “แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย”  ของพรรคเครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร
                                                                           64















                  64  “พรรคทักษิณ : ย้อนเกมต่อสู้ในรอบ 20 ปี หนี “กับดัก” รัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ” บีบีซีไทย, 20 พฤศจิกายน 2561,
                  จาก www.bbc.com/thai/thailand-46276828
   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95