Page 90 - kpiebook63028
P. 90
89
ปรากฏการณ์การเกิดขึ้นและสิ้นสุดลงในระยะเวลาอันสั้นของพรรคไทยรักษาชาติเกิดขึ้นในช่วงที่มี
การหาเสียงเลือกตั้งเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เกิดก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 22 มีนาคม 2562
เพียงเล็กน้อย ปรากฏการณ์นี้มีผลต่อการถ่ายเทคะแนน (Transfer Vote) ไปสู่พรรคการเมืองอื่นที่เป็น
พรรคเครือข่ายของพรรคเพื่อไทยและมีอุดมการณ์ในการต่อต้านการสืบทอดอำานาจของคณะรัฐประหาร ซึ่งผู้วิจัย
จะได้กล่าวต่อไปในกรณีของ พรรคอนาคตใหม่
กำรเคลื่อนไหวทำงกำรเมือง: ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหน้ำใหม่
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 จำานวนผู้มีสิทธิ์
ในการเลือกตั้งมีมากถึง 51,427,628 คน และมีหน่วยเลือกตั้งทั้งประเทศจำานวน 92,837 หน่วย ปรากฏการณ์
ที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ สิ่งที่น่าจับตามองคือ “ผู้เลือกตั้งหน้าใหม่” หรือ First Time Voters และจาก
การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้งตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่กำาหนด
ว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งคือ ผู้ที่มีอายุไม่ตำ่ากว่า 18 ปี ในวันเลือกตั้ง ซึ่งในวันเลือกตั้ง ที่จะถึงนี้จะมีจำานวนผู้มีสิทธิ์
เลือกตั้งที่เป็น นักเลือกตั้งหน้าใหม่ คือ ผู้ที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2537 ถึง ปี พ.ศ. 2544 มากถึง 6,426,014 คน
เมื่อพิจารณาในห้วงระยะเวลาระหว่าง ปี พ.ศ. 2557 ถึง ปี พ.ศ. 2562 พบว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่
ผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งที่แม้จะอายุมากว่า 18 ปี ก็ถือเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งใหม่หน้าใหม่ เพราะยังไม่เคยไปใช้สิทธิ์
เลือกตั้ง (เว้นแต่ได้เคยใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ถือเป็นโมฆะใน ปี พ.ศ.2557 และได้ใช้สิทธิลงคะแนน
ในคราวการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ ใน ปี พ.ศ.2560) การที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่
ห่างเหินจากบรรยากาศในทางการเมืองแบบประชาธิปไตย กล่าวคือเมื่อนับการรัฐประหารในปี 2549 และ
การรัฐประหารในปี 2557 ประเทศไทยมีช่วงระยะเวลาที่ปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการทหารยาวนานถึง 6 ปี
เพราะฉะนั้นผู้ที่เกิดในระยะเวลาดังกล่าวตามมีประสบการณ์จากการที่เรียนรู้การปกครองของรัฐบาลทหาร
ในวิธีใดวิธีหนึ่ง นอกจากนี้คนยุคใหม่ยังเป็นคนที่มีทัศนคติความเชื่อแนวทางการปฏิบัติซึ่งแตกต่างจาก
คนรุ่นก่อนหน้า จำานวนผู้เลือกตั้งใหม่นี้มีผลต่อการหาเสียงการเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่าง ๆ
ภายใต้ระบบการนับคะแนนที่เรียกว่าระบบจัดสรรปันส่วนผสมที่มาจากการกาบัตรเลือกตั้งเพียง
ใบเดียวเมื่อคำานวณจาก จำานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตตั้ง 350 เขต จะมีการนำาคะแนนรวมจาก
ผู้สมัครทุกท่านทั้งหมด มาหารด้วย 500 ซึ่งตัวเลขที่ได้จะเป็น จำานวนค่าเฉลี่ยว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 คน
จะต้องมีคะแนนเสียงเท่าไร ซึ่งพบว่าจำานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนึ่งท่านโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ
70,000 คะแนน ซึ่งเมื่อนำาจำานวนตัวเลขผู้มีสิทธิเลือกตั้งหน้าใหม่จำานวนกว่า 6.4 ล้านคน ซึ่งจะได้จำานวนสมาชิก
สภาผู้เทนราษฎรมากถึง 90 คน ตัวเลขดังกล่าวมีนัยสำาคัญในทางการเมือง ส่งผลให้พรรคการเมืองจำานวนมาก
ให้ความสำาคัญกับ คนรุ่นใหม่ ในทางการเมือง และพยายามปรับเปลี่ยนนโยบายและการหาเสียงเพื่อเอาใจ
คนกลุ่มนี้