Page 85 - kpiebook63028
P. 85

84       การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดชลบุรี








                      การเลือกตั้งฯ ครั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะได้รับ บัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะตัดสินใจเลือก

             โดยมีปัจจัยในเรื่องของตัวผู้สมัครหรือพรรคการเมืองเป็นสำาคัญอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ประกอบกับกติกา
             การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีกติกาที่แตกต่างจากในการเลือกตั้งครั้งก่อนโดยทุกคะแนนในเขตเลือกตั้งทุกเขตไม่ว่า

             จะเป็นเขตเลือกตั้งที่ผู้สมัครจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ประสบชัยชนะหรือไม่ประสบชัยชนะ คะแนนเหล่านี้จะถูก
             นำามารวมในการคำานวณเพื่อหา สิ่งที่เรียกว่า”จำานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พึงมี” และจำานวนสมาชิก

             สภาผู้แทนราษฎรที่พึงมีนี้เอง เป็นหลักสำาคัญในการที่พรรคการเมืองต่าง ๆ ที่หวังจะได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร
             จะดึงตัวผู้สมัครที่มีฐานคะแนนเสียงจัดตั้งโดยดูจากผลการเลือกตั้งครั้งก่อนที่ผ่านมาเข้ามาสังกัดพรรคตน


                      การเลือกตั้งฯ ในครั้งนี้ ต่างจากการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2544 ปี พ.ศ. 2548 และ ปี พ.ศ. 2554

             ซึ่งในการเลือกตั้งใน ปี พ.ศ.2544 นั้น กลุ่มพรรคพลังชลซึ่งเป็นกลุ่มภายใต้ตระกูลการเมืองคุณปลื้มประสบ
             ความสำาเร็จในทางการเมือง  ก่อนการเลือกตั้งจึงมีการประสานพูดคุยกันในทางการเมืองระหว่างผู้คุมอำานาจ

             ทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ. 2557 กับแกนนำากลุ่มตระกูลคุณปลื้ม ในการที่จะให้กลุ่มตระกูลคุณปลื้ม
             ร่วมเป็นแกนนำาในการสร้างพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุนคณะรัฐประหารให้สืบทอดอำานาจต่อหลังการเลือกตั้ง

             ซึ่งความพยายามในการดึงกลุ่มนักการเมืองอาชีพในจังหวัดต่าง ๆ ปรากฏขึ้นชัดเจนในลักษณะต่าง ๆ เช่น
             กลุ่มสามมิตร ซึ่งเดินสายในการโน้มน้าวกลุ่มการเมืองในจังหวัดต่าง ๆ ที่มีฐานคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง

             ครั้งที่ผ่านมา

                      กลุ่มการเมืองเหล่านี้จะชักจูง ให้อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรืออดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทน

             ราษฎร ซึ่งได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้ง จำานวน 10,000 คะแนนขึ้นไป เพื่อดึงเข้าสู่พรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นใหม่นี้

             ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในหลายจังหวัด ที่สำาคัญ คือ กลุ่มสามมิตร ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็น
             ทางการ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2561 จากการที่สมศักดิ์, สุริยะ พร้อมด้วย ภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา
             พรรคภูมิใจไทย และอนุชา นาคาศัย อดีต ส.ส.ชัยนาท ไปพบกับ ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตรัฐมนตรีว่าการ

             กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อดีต ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย เปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข และ

             วันชัย บุษบา อดีต ส.ส.เลย


                      กลุ่มสามมิตร มี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้ากลุ่ม มีการเดินสายไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อคุย
             กับอดีต ส.ส. เพื่อหาแนวร่วม เมื่อรวมกลุ่มเสร็จก็จะมีการพิจารณานโยบายของพรรคการเมือง หากพรรคไหน
             มีนโยบายที่เป็นประโยชน์ทางกลุ่มก็พร้อมจะสนับสนุน แต่ในเวลานี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะร่วมงานกับพรรคใด

             ซึ่งสุดท้าย คือ กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งสนับสนุนให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

             กลุ่มสามมิตร ได้เชิญอดีต ส.ส.ประมาณ 50 คน  ส่วนใหญ่เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากภาค
             ตะวันออกเฉียงเหนือ โดยก่อนที่จะมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฯ
             กลุ่มสามมิตร ได้หารือกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรี

             ว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มาโดยตลอด
   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90