Page 14 - kpiebook63013
P. 14
14 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ที่ได้พัฒนาไปเป็นพรรคประชาชนปฏิรูป และกลุ่มที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของ 4 รัฐมนตรี ได้แก่ พรรค
พลังประชารัฐ ตลอดจนมีกลุ่มนักกิจกรรมสังคมที่มีความสนใจที่จะตั้งพรรคการเมือง เช่น พรรคอนาคตใหม่
ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และการประกาศเปลี่ยนอุดมการณ์
เพื่อย้ายพรรคการเมืองของนักการเมืองหลายคน เช่น นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายนคร มาฉิม นายประดิษฐ์
ภัทรประสิทธิ์
นอกจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้ว ในส่วนของรัฐบาลเองได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญอีก 3 ฉบับได้แก่ พระราชบัญญัติ
ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561
จากโครงสร้างดังกล่าวนี้ ได้ส่งผลให้การเลือกตั้งที่กำาลังจะเกิดขึ้นแตกต่างจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา
ตั้งแต่หลังปี พ.ศ. 2544 โดยสิ้นเชิง เช่น การเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว โดยใช้การนับคะแนนแบบจัดสรร
ปันส่วนผสม ยังมีมาตรการใหม่ที่กำาหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการเลือกตั้งขั้นต้น (แม้ภายหลังจะมีมาตรา 44
ออกมาสร้างความยืดหยุ่นให้กับมาตรการดังกล่าว) เงื่อนไขใหม่เกี่ยวกับการจัดตั้งพรรคการเมือง หน้าที่และ
สถานภาพของสมาชิกพรรคการเมือง และคณะกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งการกำาหนดโทษของพรรคการเมือง
ไว้สูงมาก การกำาหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรคการเมืองและวิธีการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมือง
ในมาตรา 62-83 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง บทบาทที่เพิ่มมากขึ้นของ
คณะกรรมการการเลือกตั้งพร้อมกับการประกาศยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนการปฏิรูปประเทศ 13 ด้าน
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกติกา หรือบทบัญญัติใหม่ที่เกิดขึ้น ที่จะส่งผลต่อโครงสร้างทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลง
ของสถาบันทางการเมืองไทยอีกหลายสถาบัน ซึ่งยังไม่นับถึงพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญอีกหลายฉบับ
ที่ให้บทบาทหน้าที่กับองค์กรอื่น ๆ มากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่ออำานาจและบทบาทของผู้แทนราษฎรและรัฐบาล
ที่จะเกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้ง
ด้วยการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างอำานาจ และโครงสร้างของสถาบันทางการเมืองในช่วงระยะเวลา
8 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นที่น่าจับตามองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะสามารถบรรเทาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมา
เป็นระยะเวลากว่าทศวรรษได้หรือไม่ และจะทำาให้ประเทศไทยเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มีคุณภาพได้หรือไม่
จะทำาให้การปฏิรูปการเมืองเกิดขึ้นจริงหรือไม่ พฤติกรรมทางการเมืองของประชาชนจะมีการเปลี่ยนแปลงไป
อย่างไร ประชาชนมีการเรียนรู้ทางการเมืองมากขึ้นหรือไม่ และภายใต้กรอบกติกาใหม่นี้ ผลของการเลือกตั้ง
ยังจะยืนยันความตั้งมั่นของระบบพรรคการเมือง หรือความเข้มแข็งของพรรคการเมืองบางพรรคที่เคยก่อร่าง
สร้างตัวมาจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ได้หรือไม่ การจับตาต่อประเด็นทั้งหลายที่กล่าว
มานั้นจึงควรจะได้รับการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองในระดับพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย
เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้