Page 81 - kpiebook63012
P. 81
81
1) รูปแบบ
รูปแบบการน�าเสนอนโยบาย
การนำาเสนอนโยบายของผู้สมัครรับเลือกตั้ง นับได้ว่าเป็นเครื่องมือสำาคัญในการหาเสียงเลือกตั้งฯ เพื่อ
แสวงหาการสนับสนุนจากประชาชนในเขตเลือกตั้งของตน และสำาหรับการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร จังหวัดพะเยา
ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่นี้ จากการสัมภาษณ์และการสังเกตการณ์การนำาเสนอนโยบายผ่านวิธีการการหาเสียง
ในรูปแบบต่าง ๆ พบว่าผู้สมัครฯ ได้แบ่งกลุ่มฐานเสียงคะแนนตามประเภทอาชีพ และกลุ่มอายุ ซึ่งนำาไปสู่
การนำาเสนอนโยบายที่แตกต่าง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อฐานกลุ่มคะแนนเสียง เช่น
• กรณีน�าเสนอนโยบายในกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งโดยเน้นกลุ่มอาชีพ
พบว่าผู้สมัครทั้งจากพรรคการเมืองเก่าและพรรคการเมืองใหม่ต่างก็ได้มีรูปแบบการ
นำาเสนอนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชีพเช่นกัน โดยเฉพาะกับ “กลุ่มอาชีพเกษตรกร”
ซึ่งเป็นอาชีพส่วนใหญ่ของประชาชนจังหวัดพะเยา จึงได้เกิดการนำาเสนอนโยบายเกี่ยวกับ
การเพิ่มรายได้ การประกันราคาสินค้าทางการเกษตร ซึ่งสามารถพบได้จากประโยคโฆษณา
ในป้ายและแผ่นพับประชาสัมพันธ์หาเสียงของผู้สมัครในหลายพรรคการเมือง เช่น
“ลดอ�านาจรัฐ ทวงคืนก�าไรให้ชาวนา”
“เพิ่มพลังชุมชนท้องถิ่น ประกันราคา สินค้าการเกษตร ได้ด้วยตนเอง”
“ทวงคืนก�าไรให้ชาวนา”
“ปรับลด ปลดหนี้ เกษตรกร”
• กรณีน�าเสนอนโยบายในกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งโดยเน้นตามกลุ่มอายุ
โดยพบว่ากรณีการหาเสียงตามกลุ่มอายุนั้น ผู้สมัครทั้งพรรคการเมืองเก่าและ
พรรคการเมืองใหม่ ต่างมีรูปแบบการนำาเสนอนโยบายที่เหมือนกันกับกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
ต่างอายุกัน กล่าวคือ มีรูปแบบการสื่อสารนโยบายเพื่อสื่อสารไปยังแต่ละกลุ่มอายุ ตาม
ประสบการณ์ทางการสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ เช่น
1) ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง อายุ 18 – 26 ปี ผู้สมัครฯ ได้นำาเสนอนโยบายหาเสียงในประเด็น
ด้านการเปลี่ยนแปลงประเทศชาติสู่ความเป็นประชาธิปไตย โดยนโยบายที่นำาเสนออาจมี
ความเป็นนามธรรมสูง แต่ผู้สมัครฯ ก็มีความมั่นใจว่ารูปบแบบดังกล่าวกลุ่มเป้าหมายสามารถ
เข้าใจได้ เช่น
“เราคือเพื่อนร่วมทาง สร้างอนาคตใหม่”
“หยุดผูกขาด ล้างระบบเส้นสาย ท�าลายคอร์รัปชัน”