Page 93 - kpiebook63010
P. 93
92 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 กรุงเทพมหานคร
• มาตรา 141 (4) จัดให้มีประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับและจัดทำาอุดมการณ์ทางการเมือง
ของพรรคและนโยบายพรรค และเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรค
นายทะเบียนสมาชิก และกรรมการบริหารอื่นของพรรคตามข้อบังคับของพรรคการเมืองที่แก้ไขใหม่
ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 57/2557 และคำาสั่ง
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558
นอกจากนี้ ในการดำาเนินการตามมาตรา 140 และ 141 ห้ามไม่ให้พรรคการเมืองเก่าจัดการประชุมใหญ่
ตามมาตรา 141 (4) รวมทั้งการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำาจังหวัดตามมาตรา
141 (5) การประชุมสมาชิกพรรคการเมือง หรือการดำาเนินการอื่นใดในทางการเมืองนอกเหนือจากที่กำาหนดไว้
ในคำาสั่งนี้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
2) ค�าสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2561 เรื่อง การด�าเนินการ
ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม)
ในเวลาต่อมาได้มีการออกคำาสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2561 ในคำาสั่งนี้มีสาระสำาคัญ 2 ประการ คือ
หนึ่ง เปลี่ยนกรอบระยะเวลาในการดำาเนินการเรื่องต่าง ๆ ของพรรคการเมืองเก่าอีกครั้งหนึ่ง
คำาสั่งหัวหน้า คสช. นี้ออกมาแก้ไข พ.ร.ป. พรรคการเมืองที่เคยถูกคำาสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 แก้ไขไปแล้ว
ครั้งหนึ่ง คำาสั่งนี้ ข้อ 1 เปลี่ยนให้พรรคการเมืองเก่าที่มีอยู่แล้วดำาเนินการในเรื่องและภายในระยะเวลาดังนี้
1) จัดให้มีทุนประเดิม 1 ล้านบาท และแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายใน 180 วันนับแต่วันที่คำาสั่งหัวหน้า คสช.
ที่ 13/2561 มีผลใช้บังคับ 2) จัดให้สมาชิกไม่น้อยกว่า 500 คนชำาระค่าบำารุงพรรคสำาหรับปี 2561 ภายใน 180 วัน
นับแต่วันที่คำาสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2561 มีผลใช้บังคับ และแจ้งให้นายทะเบียนทราบพร้อมหลักฐานแสดง
การชำาระภายใน 15 วันนับแต่วันพ้นระยะเวลาชำาระ และ 3) จัดให้สมาชิกชำาระเงินค่าบำารุงพรรคให้ได้ไม่น้อยกว่า
5,000 คนภายใน 1 ปี นับแต่วันที่คำาสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2561 มีผลใช้บังคับ และให้ได้ไม่น้อยกว่า 10,000 คน
ภายใน 4 ปีนับแต่วันที่คำาสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2561 มีผลใช้บังคับ และแจ้งให้นายทะเบียนทราบ
สอง การยกเลิกระบบไพรมารีโหวต เดิม พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 49 กำาหนดให้
คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครประกอบด้วยกรรมการบริหารพรรคการเมืองไม่เกินกึ่งหนึ่งของคณะกรรมการสรรหาฯ
และหัวหน้าสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำาจังหวัด อีกทั้งมาตรา 50 การสรรหาผู้สมัคร
แบบแบ่งเขต ให้คณะกรรมการสรรหาฯ ของแต่ละพรรคเปิดรับสมัคร ตรวจสอบคุณสมบัติและส่งรายชื่อให้สาขา
พรรคหรือตัวแทนพรรคประจำาจังหวัดเพื่อจัดการประชุมให้สมาชิกพรรคลงคะแนนเลือกผู้สมัครตามรายชื่อนั้น
โดยมีข้อกำาหนดว่าการประชุมสาขาพรรคต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่า 100 คน หรือการประชุมตัวแทนพรรค
ประจำาจังหวัดต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่า 50 คน ผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 2 คนแรกของแต่ละเขตเลือกตั้ง