Page 475 - kpiebook63010
P. 475

474      การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
                    สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 กรุงเทพมหานคร







             การเลือกตั้งด�าเนินการจัดให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาจ�านวน 200 คน แล้วส่งบัญชีรายชื่อให้คณะรักษา

             ความสงบแห่งชาติคัดเลือกให้ได้จ�านวน 50 คน กล่าวโดยสรุปแล้ว ในช่วงห้าปีแรกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
             เป็นผู้คัดเลือก ส.ว. ทั้งหมด นอกจากนั้น ความส�าคัญของ ส.ว. คือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้ง

             ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญระบุไว้ ในมาตรา 272 วรรคหนึ่ง ที่ก�าหนดว่าระหว่าง 5 ปีแรก ให้ที่ประชุมร่วมกัน
             ของรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรจะเป็นนายกรัฐมนตรี อธิบายให้เข้าใจง่าย คือ การประชุม

             ให้ความเห็นชอบผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะมี ส.ส. กับ ส.ว. ร่วมกันโหวตเลือกผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี
             โดยที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นผู้เลือก ส.ว. ทั้งหมด

             และ ส.ว. เหล่านั้น จะโหวตเลือกพลเอกประยุทธ์ผู้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้เป็นนายกรัฐมนตรี


                      ประการที่สอง ระบบการเลือกตั้งในรอบนี้เป็นแบบจัดสรรปันส่วนแบบผสม โดยแบ่งสมาชิกสภาสภา
             ผู้แทนราษฎร ออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกมาจากเขตเลือกตั้ง 350 เขต และส่วนที่สองมาจาก บัญชีรายชื่อ 150 คน

             แต่ความแตกต่างกับระบบเดิมที่ใช้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 นั้นคือมีบัตรเลือกตั้ง
             ใบเดียว และมีระบบการนับเสียงตกน�้า กล่าวคือ เป็นระบบการเลือกตั้งที่พรรคที่มีผู้ที่ชนะในเขตเลือกตั้งจะมี

             แนวโน้มที่จะไม่ได้เสียงจากส่วนบัญชีรายชื่อ เพราะไม่นับซ�้าเหมือนเดิมที่มีบัตรเลือกตั้งสองใบ แต่เหลือ
             บัตรเลือกตั้งใบเดียว ดังนั้นแม้พรรคที่คาดว่าจะได้รับเลียงจากการเลือกตั้งรายเขตเยอะที่สุดเช่นพรรคเพื่อไทย

             ก็จะมีโอกาสน้อยมากที่จะได้สมาชิกในส่วนของบัญชีรายชื่อ

                      ประการที่สาม การก�าหนดกรอบระยะเวลาการด�าเนินการของพรรคการเมืองที่มีอยู่เดิมและผู้ที่

             จะจัดตั้งพรรคใหม่ ตามค�าสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 53/2560 สั่งเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม

             พ.ศ. 2560 ที่ออกมาแก้ไข พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ได้เปลี่ยนให้พรรคการเมืองเดิมต้อง
             1) สมาชิกของพรรคต้องมีหนังสือยืนยันการเป็นสมาชิกต่อหัวหน้าพรรค และช�าระค่าบ�ารุงพรรคภายใน 30 วัน
             นับแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 และให้พรรคแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายใน 30 วันนับแต่วันที่พ้นก�าหนดเวลา

             2) ด�าเนินการจัดให้มีทุนประเดิม 1 ล้านบาท และแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายใน 180 วันนับแต่วันที่ 1 เมษายน

             2561 3) จัดให้สมาชิกไม่น้อยกว่า 500 คนช�าระค่าบ�ารุงพรรคส�าหรับปี 2561 ภายใน 180 วันนับแต่วันที่
             1 เมษายน 2561 และแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบพร้อมหลักฐานแสดงการช�าระภายใน 15 วัน
             นับแต่วันพ้นช�าระ และ 4) จัดให้สมาชิกช�าระเงินค่าบ�ารุงพรรคให้ได้ไม่น้อยกว่า 5,000 คนภายใน 1 ปี นับแต่

             วันที่ 1 เมษายน 2561 และให้ได้ไม่น้อยกว่า 10,000 คนภายใน 4 ปีนับแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 และแจ้งให้

             นายทะเบียนทราบ ส่วนเรื่องการประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรค
             นายทะเบียนสมาชิก และกรรมการบริหารอื่นของพรรค ต้องรอยกเลิกประกาศ คสช. ฉบับที่ 57/2557 และค�าสั่ง
             หัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ขณะที่ผู้ที่จะตั้งพรรคใหม่สามารถด�าเนินการตามหมวด 1 ของ พ.ร.ป. พรรคการเมือง

             ซึ่งก็มีเรื่องการมีทุนประเดิม 1 ล้านบาท การประชุมร่วมกันไม่น้อยกว่า 250 คน เพื่อก�าหนดชื่อและเครื่องหมาย

             พรรค และเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรค นายทะเบียนสมาชิก และกรรมการบริหารอื่น
             ของพรรค ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2561
   470   471   472   473   474   475   476   477   478   479   480