Page 143 - kpiebook62014
P. 143
ผู้สนับสนุนหมายเลข 2 มีเพียงคนเดียวที่พยายามยิ้มทักทายให้แก่ผู้สมัครหมายเลข 3 แต่ไม่ได้รับการตอบรับ
จากผู้สมัครโดยตรง ผู้สมัครหมายเลข 3 ปรากฎตัวเพียงระยะหนึ่งเท่านั่น จากนั้นได้จากไปและกลับมาอีกครั้ง
เมื่อนับผลคะแนน ขณะที่ผู้ลงสมัครหมายเลข 2 ไม่ปรากฏตัวแม้แต่ในช่วงการนับคะแนน โดยได้มอบหมายให้
ทีมงานของตนคนหนึ่งที่ได้รับการวางตัวให้เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านปฏิบัติหน้าที่ในการรับฟังผลการเลือกตั้งแทน
ส าหรับผลการเลือกตั้ง ผู้สมัครหมายเลข 3 ชนะการเลือกตั้งไปด้วยคะแนน 233 คะแนน ขณะที่
หมายเลข 2 ได้คะแนนเพียง 163 คะแนน บัตรเสีย 6 ใบ
บรรยากาศเมื่อการเลือกตั้งผ่านพ้นไปไม่นานประมาณ 30 นาที ผู้วิจัยได้รับข้อความผ่านทาง
application Line กลุ่มปอภารเลือกตั้งสมานฉันท์ แจ้งว่า “ผู้สมัครหมายเลข 3 ชนะการเลือกตั้งเพราะจ่ายเงิน
2,000 บาท” เมื่อได้รับข้อความไม่นานผู้วิจัยก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้สนับสนุนหมายเลข 2 แจ้งว่าหมายเลข 3 ชนะ
เพราะใช้เงิน
“เบอร์ 3 ได้เพราะว่าเขาใช้เงิน มันแก้ไม่ได้หรอก หัวละ 2 พัน เขาเอาคนขึ้นมาจาก กรุงเทพฯก็มี
ก็เยอะอยู่เป็น 10 – 20 คนนั่นแล่ะ ให้หัวละ 2,000-3,000 ตามบ้านอีก แต่ว่าเราไม่มีหลักฐานเราตามถ่ายรูปเขา
ไม่ได้ แต่ก็มีคลิปเสียงของเด็กน้อย เขาบอกว่ามันมีเด็กอยู่นั่นน่ะ โรงเรียนเขาหลอกถามว่า บ้านเขาน่ะลุง
ผู้ใหญ่บ้านยัดเงินนะ บ้านแกเป็นไง ทีนี้ไอ้เด็กที่เราก็บอกว่าบ้านเราก็ยัดเหมือนกัน แต่ไม่พูดหรอก เดี๋ยวจะผิด
กัน”
วันรุ่งขึ้นหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปผู้วิจัยได้รับโทรศัพท์จากทีมสนับสนุนผู้ลงสมัครรับเลือกเป็น
ผู้ใหญ่บ้านหมายเลข 2 คนเดิมอีกครั้ง กล่าวถึงความรู้สึกต่อผลการเลือกตั้งว่า “...ถ้าไม่ใช่จิตอาสา พี่จะไม่เสียใจ
เลย ใส่เสื้อจิตอาสาท าไมต้องท าแบบนี้ถ้ามันเอาความซื่อสัตย์ใส่กันพี่จะไม่เสียความรู้สึกเลย ... เรามันซื่อเกินไป
เพราะว่าเราเคารพสถาบันไง พี่ยกไว้เหนือหัวเลยนะสถาบัน ... ไม่มีใครพูดหรอก เขาก็กลัวความผิดเหมือนกัน
นั่นแล่ะ ...พี่ว่าส่วนมากจะไม่ใช่ญาติของเราไงพวกที่ 50-50 น่ะ ... แต่ญาติเราจริงๆเขาไม่มีปัญหา...”
ภายหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไป ผู้วิจัยได้พูดคุยกึ่งสัมภาษณ์กับผู้น าท้องที่ ผู้น าท้องถิ่น และปราชญ์ชาวบ้าน
หลายคนเพื่อสอบถามว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาพบว่ามีการใช้เงินในการซื้อเสียงหรือไม่ และ บรรยากาศภายหลัง
การเลือกผู้ใหญ่บ้านผ่านพ้นไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ความสัมพันธ์ของคนในชุมชนเป็นอย่างไร เกิดความ
สมานฉันท์ตามเป้าหมายของการรณรงค์หรือไม่
อดีตผู้ใหญ่บ้านคนที่ 1 และปราชญ์ชาวบ้าน กล่าวว่า “...ถือว่ำได้ผลตำมกำรรณรงค์ของโครงกำร คือ
ตอนนี้ก็ไม่เจ็บตัวทั้งสองฝ่ำย พอคะแนนออกมำก็ไม่เหมือนกับครั้งที่แล้ว ห่ำงกันมำกต่ำงกัน 70 คะแนน ...
ส่วนตัวคิดว่ำโครงกำรนี้ เข้ำมำคุ้ม มีผลดี คนกระเตื้องขึ้น ในเรื่องไม่ซื้อสิทธิขำย ...กำรเลือกครั้งนี้บอกได้เลยว่ำ
ต่ำงจำกแต่ก่อน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่ำฝ่ำยที่แพ้ก็ต้องท ำใจกันไป อำรมณ์นิดหน่อยตอนที่มีกำรนับ
คะแนน ส่วนใหญ่มำจำกผู้สนับสนุนผู้แพ้ ก็พูดเชิง “เดี๋ยวดูเถอะงำนนี้ต้องมีคนตำยเกิดขึ้น” ตนก็เลยไม่พูดอะไร
เพรำะเป็นกำรกีฬำ มันเป็นกำรพูดกระแทกกันนิดหน่อย เรียกว่ำเป็นชั่ววูบ ... ตอนนี้ก็มีกำรพูดกันเฉยๆว่ำ “ฝ่ำย
134