Page 138 - kpiebook62014
P. 138

วันที่ 19 มิถุนายน 2561 ผู้วิจัยได้รับโทรศัพท์จากทีมผู้สมัครหมายเลขหมายเลข 3 ติดต่อมาว่าก านัน

               ต าบลปอภารได้มาชี้แจงเรื่องการไม่ได้มาจัดเวทีปราศรัยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2561 เรียบร้อยแล้ว โดยผู้วิจัยขอ
               น าเอาบทสนทนาบางส่วนมาน าเสนอไว้ดังนี้ “...ตอนแรกตั้งแต่ 6 โมงเช้าพี่ก็โทรตามแก แต่แกก็ไม่รับ พอแกรับ

               พี่ก็ว่า อ้าวก านันไหนก านันว่าจะมาแต่เช้า ท าไมตอนนี้ยังไม่มาอีก แกก็ว่าไม่มีใครเฝ้าร้านค้าให้แต่ตอนนี้ก าลัง

               จะออก พี่ก็รอก็ยังไม่มา 4 โมงกว่าแล้ว สักพักพี่ก็ว่าก านั้นจะมาไหม สักพักหอกระจายข่าวก็ดังเบิ้งๆๆๆ อ้อ
               ก านันมาแล้ว” “แกก็พูดดีอยู่ ก็พูดประชาสัมพันธ์เรื่องอื่นก่อน ก็พูดในส่วนของสวัสดิการอันนั้นอันนี้ แกก็ว่าก็

               อยากให้ผู้ใหญ่บ้านคนใหม่มาสานงานต่อ ก็เอาคนท างานนั่นแล่ะที่จะเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเรา และก็ว่าพรุ่งนี้ก็

               อย่าลืม พ่อแม่พี่น้อง ไปเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านไปใช้สิทธิของตนเอง ไปเป็นประชาธิปไตยแกก็พูดไป  แกพูดดีอยู่

               แกก็พูดไปเรื่อย ทีนี้ปิดท้ายแกก็ว่าขอกราบขอโทษพ่อแม่พี่น้องทุกๆท่าน เนื่องจากว่าวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา
               เวทีปราศรัยที่เกิดขึ้นก็สืบเนื่องจากตัวของกระผมเองเป็นผู้ที่จะไปนัดฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ ตกลงกันเรียบร้อยในการที่

               จะปราศรัย แล้วก็ตกลงค่าใช้จ่ายต่างๆเรียบร้อยในการที่จะมีการปราศรัยเกิดขึ้น เวทีนี้ก็คือผมก็จัดขึ้นนั่นแล่ะ

               ตอนแรกก็ไม่ได้รู้ว่ากฎหมายฉบับใหม่ออกมา  แบบเคร่งครัดอะไร แต่ทีนี้ไปปรึกษาผู้ใหญ่พอปรึกษาผู้ใหญ่

               เสร็จปุ๊ บนายอ าเภอก็ประมาณว่าอยู่ในดุลยพินิจของก านันนะ นายอ าเภอก็ตัดออกไปว่าเพราะในส่วนของเขานั้น
               ไม่มาอยู่แล้ว เพราะว่ามันผิด แล้วแต่ก านันนะ ถ้าผิดมาก านันก็รับเอาเอง ผมก็รับบ่ได้ ผมก็เลยตกยกเลิกกลาง

               อากาศ  แกก็เลยบอกว่าผมให้ลูกน้องแต่ละหมู่พูดก็ไม่มีใครกล้าพูด สักคน สรุปก็คืองานนี้ก็เลยล้มเลิกไป คือที่

               ผมเข้ามาพูดผมต้องการเข้ามารับผิดชอบผมขอโทษพ่อแม่พี่น้องในชุมชน ว่าให้เข้าใจตรงกัน  ไม่ใช่ความผิด
               ของผู้สมัครทั้งสองเลย  เป็นความผิดของผมเอง... พวกพี่ก็สบายใจขึ้นเยอะ”

                       จากข้างต้นกล่าวได้ว่า กิจกรรมจัดเวทีปราศรัยนั้นไม่ประสบความส าเร็จตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากข้อ

               กฎหมายกับการสื่อสารที่ขาดหายไประหว่างผู้น าท้องที่กับผู้สมัครและประชาชนในพื้นที่ส่งผลให้เกิดความ
               เข้าใจผิดในสาระส าคัญว่าการจัดเวทีปราศรัยยังสามารถด าเนินการได้อยู่ตามกฎหมาย ส่งผลให้เกิดกิจกรรม

               รณรงค์เชิญชวนชาวบ้านโคกก่องร่วมรับฟังการปราศรัย ขณะที่ผู้สมัครได้มีการเตรียมตัวขึ้นเวที ด้านชาวบ้าน

               โคกก่องก็ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเวทีปราศรัยเป็นอย่างมาก ส่งผลให้เมื่อเวทีปราศรัยไม่อาจจัดขึ้นได้
               เนื่องจากไม่มีผู้มีอ านาจหน้าที่รับผิดชอบอยู่ในที่นั้น จึงสร้างความรู้สึกผิดหวังและเสียใจให้กับหลายผ่าย

                       อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ที่มีอ านาจหน้าที่รับผิดชอบได้ออกมายอมรับผิดและชี้แจงในภายหลัง ได้สร้างความ

               เข้าใจให้แก่คนในชุมชนและผู้สมัคร ส่งผลให้บรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้น ขณะเดียวกัน แม้เวทีปราศรัยจะจัด

               ขึ้นได้ไม่ แต่จิตอาสา ประชาชน รวมไปถึงผู้วิจัยได้เรียนรู้หลายเรื่องจากการเตรียมการจัดเวทีปราศรัยในครั้งนี้
               กล่าวคือ ในส่วนของจิตอาสาได้ร่วมกันรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงอย่าง

               ต่อเนื่อง ขณะที่ประชาชนชาวบ้านโคกก่องมีความตื่นตัวเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง การเลือกผู้น า

               จากผลงานและนโยบายมากขึ้น ด้านผู้วิจัยเองได้เรียนรู้เรื่องความเป็น “การเมือง” ท้องถิ่นมากยิ่งขึ้นและ




                                                                                                         129
   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143