Page 142 - kpiebook62014

เมตรจ านวน 5 ถึง 6 คน โดยแต่ละคนต่างนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ นอกจากรถจักรยานยนต์แล้วผู้วิจัยยังพบ

รถยนต์กระบะจ านวน 2 คันจอดบริเวณหน้าวัด โดยชายที่อยู่ในรถยนต์กระบะนั้นก าลังพูดคุยกับกลุ่มชายที่นั่ง
อยู่บนรถจักรยานยนต์ เมื่อขับวนไปบริเวณหลังวัด พบหญิงสูงอายุสองคนถือกระเป๋ าท าท่าทางซุบซิบและมีท่าที

เสมือนยืนรอใคร สักพักมีการยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อค้นหาข้อมูลบางอย่างและแลกเปลี่ยนกันดูโดยแอบอิง

อยู่หลังพุ่มไม้ เมื่อขับรถวนรอบหมู่บ้าน พบว่ามีการจับกลุ่มกันระหว่างชาวบ้านในบ้านที่มีขนาดใหญ่และมี
รถจักรยานยนต์และรถยนตร์ขับวนไปมาบริเวณหมู่บ้านจ านวนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในวันปกติ เมื่อผู้วิจัยขับ

รถวนมาบริเวณหน้าวัดอีกรอบ พบว่ามีบุคคล 2 คน เป็นชายและหญิงนั่งรออยู่บนพื้นถนนบริเวณทางแยกของ

ทางไปวัด

เมื่อผู้วิจัยขับรถเข้ามาบริเวณวัด พบว่ามีรถยนต์และรถจักรยานยนต์จอดอยู่ในบริเวณวัดจ านวนมาก
โดยส่วนมากเข้ามาจอดพักหนึ่งเพื่อลงคะแนนเสียงแล้วจึงขับออกไป สิ่งที่น่าสนใจคือในบริเวณวัดพบว่ามีการ

แบ่งกลุ่มระหว่างทีมสนับสนุนผู้สมัครหมายเลข 2 และทีมสนับสนุนผู้สมัครหมายเลข 3 อย่างชัดเจน โดยทีม

สนับสนุนผู้สมัครหมายเลข 2 นั่งรวมกลุ่มกันจ านวนประมาณ 10 คนบริเวณเพิงที่พักกลางวัด ส่วนทีมสนับสนุน

ผู้สมัครหมายเลข 3 นั่งรวมกลุ่มกันในช่วงเช้าจ านวนประมาณ 10 คนบริเวณศาลาหลังเล็กใกล้ศาลาการเปรียญ
ข้อสังเกตของผู้วิจัยคือมีผู้สนับสนุนผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาทักทายและ

นั่งพูดคุยกับผู้สนับสนุนทั้ง 2 หมายเลข โดยพบว่ามีผู้เดินมาสมทบกับกลุ่มผู้สนับสนุนหมายเลข 3 จ านวน

มากกว่าหมายเลขที่ 2 ขณะที่ พบว่ามีสมาชิกจากทีมสนับสนุนผู้สมัครหมายเลข 2 พยายามเดินไปทักทายและ
ต้อนรับผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยในบางกรณีพบว่าลูกสาวของผู้สมัครหมายเลข 2 จะเข้ามาทักทายและพาผู้ที่มา

ใช้สิทธิไปที่คูหาเลือกตั้ง

ความน่าสนใจอีกประการอยู่ที่ ช่วงเวลาที่ผู้มีสิทธิมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยส่วนใหญ่จะมาในช่วงเช้า
โดยช่วง 13.00 นาฬิกาเป็ นต้นไปเริ่มมีคนเบาบางลงและเบาบางลงอย่างมากในช่วงเวลา 14.00 -

14.30 นาฬิกา กระทั่งเวลา 14.30 ก านันต าบลปอภารได้ประกาศผ่านเสียงตามสายให้ผู้ที่มีสิทธิมาใช้สิทธิเลือก

ผู้ใหญ่บ้านก่อนที่จะปิ ดคูหา ต่อมาเวลา 14.45 นาฬิกา เริ่มมีคนทยอยมาที่คูหาเลือกตั้งอีกครั้ง โดยผู้วิจัย
สังเกตเห็นว่ามีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจากหมู่อื่นและสมาชิกสภาเทศบาลต าบลปอภาร เข้าร่วมสังเกตุการณ์การเลือก

ผู้ใหญ่บ้านครั้งนี้ด้วย โดยมีสมาชิกสภาเทศบาล 1 คนสวมเสื้อที่มี “โลโก้ปอภารสมานฉันท์ ไม่ซื้อสิทธิขาย

เสียง” ที่ผู้วิจัยแจกให้ตั้งแต่แรกมาด้วย ต่อเมื่อเหลือเวลาอีก 5 นาทีก่อนปิดคูหาเลือกตั้ง เริ่มมีประชาชนทยอยมา

ฟังผลการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งมากขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ยังไม่ปรากฏตัวทั้งสองฝ่าย กระทั่งเวลา 14.45 นาฬิกา

โดยประมาณ ผู้สมัครหมายเลข 3 ปรากฎตัว ด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ เดินผ่านด้านหน้าเพิงพักของกลุ่มผู้สนับสนุน

หมายเลข 2 โดยไม่มีการกล่าวทักทาย และเดินไปนั่งที่ศาลาหลังเล็กรวมกับทีมที่สนับสนุนตน ขณะที่

133