Page 23 - kpiebook62008
P. 23
ณ
๒. ในประเด็นเกี่ยวกับองค์กรที่กำหนดนโยบายและมาตรการทางภาษี ในปัจจุบัน หน่วยงานผู้ริเริ่ม
นโยบายภาษีค่อนข้างมีความหลากหลาย นโยบายภาษีจึงขาดความเป็นเอกภาพและขาดหลักประกันการคุ้มครอง
สิทธิของผู้เสียภาษี ผู้วิจัยจึงเห็นควรให้มีการจัดตั้ง “คณะกรรมการที่ปรึกษานโยบายภาษีแห่งชาติ” ซึ่งประกอบไป
ด้วยผู้เชี่ยวชาญทางภาษีอากรและทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษารัฐบาลในการจัดทำนโยบายและมาตรการทางภาษี
๓. ในประเด็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การตรากฎหมายภาษีในรัฐธรรมนูญ ในปัจจุบัน การตรากฎหมายเพื่อ
จำกัดสิทธิของผู้เสียภาษีจำเป็นต้องใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการจำกัดสิทธิในทรัพย์สิน จึงก่อให้เกิดการมอบอำนาจให้
ฝ่ายบริหารในการตรากฎหมายลำดับรองเพื่อกำหนดโครงสร้างภาษีที่สำคัญ ผู้วิจัยจึงเห็นควรให้มีการบัญญัติ
หลักเกณฑ์การตรากฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิของผู้เสียภาษีขึ้นเป็นการเฉพาะไว้ในรัฐธรรมนูญพร้อมทั้งกำหนดกรอบ
การมอบอำนาจให้ฝ่ายบริหารในการตรากฎหมายลำดับรอง
๔. ในประเด็นเกี่ยวกับการใช้ระบบการตอบหนังสือข้อหารือ ในปัจจุบัน ระบบการตอบหนังสือข้อหารือยัง
ไม่มีกฎหมายรองรับซึ่งส่งผลให้ยังมิได้มีผลผูกผันกับกรมสรรพากรและยังมิได้มีการกำหนดระยะเวลาการตอบ
หนังสือข้อหารือ ผู้วิจัยจึงเห็นควรกำหนดให้มีการเพิ่มเติมระบบการตอบหนังสือข้อหารือไว้ในประมวลรัษฎากรโดย
กำหนดให้การตอบหนังสือข้อหารือมีผลผูกพันกรมสรรพากรและมีการกำหนดระยะเวลาการตอบหนังสือข้อหารือ
ทั้งนี้ อาจให้อำนาจกรมสรรพากรกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ ที่จำเป็นออกมาในรูปของกฎหมายลำดับรอง
๕. ในประเด็นเกี่ยวกับการกำหนดสิทธิของผู้เสียภาษีไว้เป็นการเฉพาะ บทบัญญัติเกี่ยวกับการคุ้มครอง
สิทธิในระหว่างการจัดเก็บภาษียังมิได้กำหนดบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิของผู้เสียภาษีและยังจำต้องอาศัยกฎหมายอื่น
มาใช้บังคับ ผู้วิจัยเห็นควรให้มีการกำหนดหมวดเกี่ยวกับสิทธิของผู้เสียภาษีให้แยกออกมาและมีการกำหนด
กระบวนการเป็นการเฉพาะเพื่อให้เกิดความแน่นอนชัดเจน
๖. ในประเด็นเกี่ยวกับคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ผู้วิจัยเห็นควรปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการ
พิจารณาอุทธรณ์ให้เพิ่มเติมผู้เชี่ยวชาญทางภาษีเข้าไปเป็นองค์ประกอบเพื่อให้การวินิจฉัยของคณะกรรมการ
พิจารณาอุทธรณ์มีประสิทธิภาพและมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
๗. ในประเด็นเกี่ยวกับการควบคุมตรวจสอบโดยระบบงบประมาณ ระบบงบประมาณของประเทศไทยยัง
เป็นระบบขาเดียวซึ่งก็ทำให้รายรับและรายจ่ายไม่สมดุลกัน ในการแก้ไขปัญหาระยะยาวผู้วิจัยจึงเห็นควรให้มีการ
เปลี่ยนแปลงระบบงบประมาณของประเทศไทยจากระบบขาเดียวมาเป็นระบบสองขาโดยมีการพิจารณา
งบประมาณรายรับและงบประมาณรายจ่ายไปพร้อมกัน แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยเวลา จึงเห็น