Page 165 - b29416_Fulltext
P. 165
(๒) กลุ่มอุตสาหกรรมกลุ่มทอผ้าไทเลย บ้านก้างปลา ต าบลชัยพฤกษ์ อ าเภอเมือง จังหวัดเลย
บริบทชุมชนและการเกิดขึ้นของกลุ่ม
บ้านกางปลาเป็นชุมชนกึ่งเมืองกึ่งชนบท ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ท านา ท าไร่
ทุกครัวเรือนปลูกพืชผักสวนครัวกินเอง ทอผ้าใช้เองพึ่งพาอาศัยกันในแบบเครือญาติ โดยมีวัฒนธรรม ประเพณี
และผู้สูงอายุเป็นสิ่งยึดรวมจิตใจให้ปฏิบัติต่อกันแบบเครือญาติ เป็นพี่เป็นน้องกันทั้งหมู่บ้าน กลุ่มทอผ้าไทเลย
บ้านก้างปลาเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยหมู่บ้านก้างปลา ได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบ “หมู่บ้าน
แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” ต่อมากรมการพัฒนาชุมชนได้เข้ามาส่งเสริมสนับสนุน ให้มีการรวมกลุ่มจัดตั้งเป็น
กลุ่มทอผ้าขึ้น โดยได้เชิญวิทยากรจากอุตสาหกรรมจังหวัดเลย มาสอนในการทอผ้าพื้น การย้อมสี การขึ้นลาย
ท าให้สมาชิกกลุ่มทอผ้า มีความรู้ ทักษะและประสบการณ์ มีการพัฒนาฝีมือจนเป็นที่ยอมรับของจังหวัดเลย
และจังหวัดใกล้เคียง จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๒๖ สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณีวัฒนา ได้มีพระกรุณาธิคุณ
เสด็จเยี่ยมกลุ่มทอผ้าและราษฎรบ้านก้างปลา ซึ่งเป็นหมู่บ้านในฝัน “หมู่บ้านแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” ส่งผล
ท าให้สามารถจ าหน่ายเสื้อผ้าได้เป็นจ านวนมาก ต่อมาได้มีการพัฒนาโดยการท าผ้าสีธรรมชาติ ส่งไปจ าหน่ายที่
ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ กลุ่มได้รับการสนับสนุนเงินตามโครงการเงินกู้มิยาซาวา ในรูปของกี่กระตุก
วัสดุ อุปกรณ์ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ กลุ่มทอผ้าบ้านก้างปลา มีการพัฒนาทักษะและฝีมือสามารถทอผ้าสวยงาม
และมีคุณภาพจึงได้ประสานงานขอรับการสนับสนุนวิทยากรจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเพื่อสอนการ
ตัดเย็บเสื้อผ้า และจัดซื้อจักรเย็บผ้า งบประมาณทั้งสิ้น ๓๐๐,๐๐๐ บาท และในปี พ.ศ. ๒๖๔๓ กรมการพัฒนา
ชุมชนได้จัดซื้อด้ายส าหรับเย็บผ้ามาสนับสนุนให้เป็นจ านวนเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท สมาชิกกลุ่มจึงได้มีการ
ปรึกษาหารือในการพัฒนากิจกรรมการทอผ้าขึ้นมาใหม่ โดยมีการแบ่งหน้าที่ของสมาชิกให้ชัดเจน เช่น แผนก
ย้อมสี แผนกทอ แผนกปั่นหลอดด้าย และแผนกจ าหน่าย โดยแบ่งตามความถนัดของแต่ละบุคคล สมาชิกส่วน
ใหญ่จะทออยู่ที่กลุ่มทอผ้าบ้านก้างปลา บางส่วนมีการน าไปทอที่บ้าน จนท าให้สมาชิกกลุ่มทอผ้ามีรายได้เพิ่ม
มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกทอผ้าทั้งหมด ๕๒ คน โดยมีนางฉลาด เสาวนนท์ เป็นประธานกลุ่ม นางลอง วัฒ
นมงคล เป็นรองประธานกลุ่ม และนางแว่นแก้ว นาขุนทด เป็นเลขานุการ
ปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกที่ส่งผลต่อการด าเนินงานของกลุ่ม
ปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกที่ส่งผลต่อการด าเนินงานของกลุ่ม ได้แก่ นโยบายบายด้านการส่งเสริม
วิสาหกิจชุมชน และการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ
๑) นโยบายบายด้านการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ท าให้ชุมชนสามารถเข้าถึงเงินที่จะน ามาลงทุนเพื่อ
ขยายกิจการ รวมทั้งซื้อวัตถุดิบและวัสดุอุปกรณ์ได้เพิ่มขึ้น จากเมื่อตอนเริ่มตั้งกลุ่มมีสมาชิกที่ลงหุ้นเป็นทุน
ด าเนินงานครั้งแรกจ านวน ๑๕ คน คนละ ๑๐๐ รวมเป็นเงิน ๑,๕๐๐ บาท มีกี่ทอผ้าธรรมดาประมาณ ๑๕ ตัว
เป็นส่วนสมทบของสมาชิกแต่ละคน ปัจจุบันมีกี่กระตุกมี ๕๐ ตัว ตั้งอยู่ที่ท าการกลุ่มทอผ้า ๒๐ ตัว ที่เหลือ
กระจายตามบ้านของสมาชิกกลุ่ม เพื่อให้สมาชิกสามารถทอผ้าที่บ้านได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางที่ท าการของ
กลุ่ม และสามารถทอผ้าได้ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน ปัจจุบันมีทุนหมุนเวียนของกลุ่มในระดับดี
พอสมควร คือมีทุนเพิ่มขึ้นประมาณ ๒๕๐,๐๐๐ บาท
๒) การสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ จากการได้รับการยกระดับหมู่บ้านให้เป็น“หมู่บ้านแผ่นดิน
ธรรม แผ่นดินทอง” ท าให้มีหน่วยงานภาครัฐเข้าไปสนับสนุน และพัฒนาหมู่บ้าน มีการร่วมมือกันท ากิจกรรม
พัฒนาชุมชน รวมทั้งรวมกลุ่มประกอบอาชีพ โดยหน่วยงานที่มีบทบาทส าคัญได้แก่ ส านักงานพัฒนาชุมชน
รายงานฉบับสมบูรณ์การศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ๑๒๐