Page 160 - b29416_Fulltext
P. 160
บริหารส่วนจังหวัด มีแนวนโยบายสนับสนุนเรื่องไม้แกะสลัก ส่งเสริมให้มีกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ
จังหวัดอื่น ๆ จับมือร่วมกันในนามของสมาคมไม้แกะสลักภาคเหนือ และพัฒนาต่อยอดไปจนถึงระดับประเทศ
สร้างให้เป็นทุนทางวัฒนธรรมชุมชนแลกเปลี่ยนข้ามจังหวัด ข้ามประเทศ ท าให้เกิดระบบเศรษฐกิจที่เคลื่อนไหว
และหมุนเวียน
๒) หน่วยงานภาครัฐให้การส่งเสริม : งานแกะสลักไม้เป็นงานที่เชี่ยวชาญมาจากการสืบทอดภูมิปัญญา
ท้องถิ่นที่คนในชุมชนต าบลทาทุ่งหลวง อ าเภอแม่ทา จังหวัดล าพูนจึงมีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว สิ่งที่
หน่วยงาน เช่น กรมการพัฒนาชุมชน เข้ามาส่งเสริม ได้แก่ ๑) การค้นหาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ชุมชนที่สามารถ
สร้างรายได้น าเงินเข้ามาสู่ชุมชนเป็นสินค้า OTOP ชุมชน ๒) การสนับสนุนส่งเสริมด้านการตลาดโดยการจัด
งานแสดงสินค้าในระดับต่างๆ ทั้งในจังหวัดล าพูน และต่างจังหวัด ท าให้สินค้าชุมชนได้วางตลาดและเป็นที่รู้จัก
๓) การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ท าข่าว สื่อสารให้เกิดการรับรู้แก่สาธารณะ
๓)ภาคธุรกิจเอกชนในท้องถิ่น : พื้นที่ภาคเหนือของไทย ตั้งแต่อดีตมีทรัพยากรไม้จ านวนมาก มีภูมิ
ปัญญาที่สืบทอดการท าไม้แกะสลักมายาวนานหลายร้อยปีกระจายอยู่ตามท้องถิ่นจังหวัดต่างๆ เช่นเดียวกัน
ภาคธุรกิจด้านแกะสลักไม้ในภาคเหนือจึงมีอยู่จ านวนมากและมีชื่อเสียง โดยเฉพาะชุมชนบ้านถวาย อ าเภอหาง
ดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตและค้าขายผลิตภัณฑ์ไม้แกะสลักใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักทั่วโลก สินค้า
งานแกะสลักไม้จากชุมชนต าบลทาทุ่งหลวง อ าเภอแม่ทา จังหวัดล าพูน จึงนับว่าได้รับการส่งเสริมด้าน
การตลาดอย่างมากจากนักธุรกิจในบ้านถวาย ในอดีตที่ผ่านมางานแกะสลักไม้จากชุมชนต าบลทาทุ่งหลวงน าส่ง
ไปขายที่ตลาดในชุมชนบ้านถวายมากที่สุด แต่ปัจจุบัน นับตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ สถานการณ์เศรษฐกิจท้องถิ่นและ
การค้าขายงานแกะสลักไม้แย่ลงต่อเนื่องทุกปีส่งผลกระทบต่อกลุ่มแกะสลักไม้บ้านท้องฝาย ต าบลทาทุ่งหลวง
อย่างมาก
ปัจจัยภายในที่ส่งผลต่อการด าเนินงานของกลุ่ม
ปัจจัยภายในที่ส่งผลต่อการด าเนินงานของกลุ่ม ได้แก่ ทุนทางวัฒนธรรม บทบาทผู้น าชุมชน การ
บริหารจัดการกลุ่ม การสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วม และการพัฒนาและต่อยอดกิจกรรม กล่าวคือ
๑) ทุนทางวัฒนธรรม : งานแกะสลักไม้เป็นภูมิปัญญาที่ส าคัญของคนไทยภาคเหนือในหลายจังหวัดมา
ตั้งแต่อดีต กล่าวเฉพาะในพื้นที่ทาทุ่งหลวง อ าเภอแม่ทา จังหวัดล าพูน ประวัติศาสตร์ของผู้น าภูมิปัญญาด้าน
งานแกะสลักไม้ เริ่มเด่นชัดมากขึ้นในปีพ.ศ. ๒๕๐๕ เมื่อพ่อหลวงสิงห์ชัย ปะระดี ได้น าตัวอย่างช้างแกะสลักมา
เป็นแบบเพื่อฝึกหัดเอง ลองผิดลองถูกจนสวยงาม ส่งขายเองในอ าเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ สมัยนั้น
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของงานแกะสลักคือต้องเป็นการแกะสลักช้างและต้องเป็นไม้สักเท่านั้น ไม้สักก็ตัดมาจาก
ภายในหมู่บ้าน ต าบล ต่อมาทางการเริ่มมีกฎหมายห้ามตัดไม้สักเอง ชาวบ้านจึงไม่มีไม้มาท าการแกะสลัก พ่อ
หลวงสิงห์ชัย และเพื่อนๆ จึงรวมกลุ่มกันคิดหาทางออกและได้จัดตั้งกลุ่มขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “กลุ่มสหกรณ์ผลิตไม้
แม่ทา” เริ่มต้นจากการมีสมาชิก ๒๕ คนมาจากในต าบลทาทุ่งหลวงและต าบลทากาศ พอตั้งเป็นกลุ่มขึ้นมาก็ไป
ซื้อไม้สักที่ถูกกฎหมายจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จังหวัดเชียงใหม่ น ามาให้สมาชิกกลุ่มสหกรณ์ผลิตไม้แม่
ทาแกะสลัก สมาชิกส่วนใหญ่จะมารับไม้สักแล้วน าไปแกะที่บ้านของตนเอง ท าให้ทางกลุ่มสหกรณ์ผลิตไม้แม่ทา
มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ต่อมาในปีพ.ศ. ๒๕๑๒ จากการแกะสลักรูปช้างก็เริ่มเปลี่ยนมาแกะสัตว์ นางไหว้ ภาชนะ สิ่งของ
เครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งได้น าต้นแบบมาจากเชียงใหม่ มีแต่การลงแร็คเกอร์เงายังไม่มีการท าสี จนกระทั่งไม้สักจาก
รายงานฉบับสมบูรณ์การศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ๑๑๕