Page 18 - 22385_Fulltext
P. 18
บทนำ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น และทำให้
ความเสมอภาคในประเด็นนี้เกิดขึ้นได้จริงในทางปฏิบัติ ด้วยความคาดหวัง
ให้สิทธิขั้นพื้นฐานในเรื่องนี้ได้รับการเคารพอย่างแท้จริงทั้งจากบุคคลากร
ภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน รวมทั้งประชาชนทั่วไป ที่ผ่านมาทั้งก่อนและ
หลังกฎหมายฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับ ทุกภาคส่วนในสังคมจึงเฝ้าจับตาและ
ติดตามทั้งเนื้อหาสาระของบทบัญญัติ การตีความและการนำไปปรับใช้กับ
กรณีที่เกิดขึ้น ไปจนถึงผลกระทบและอิทธิพลที่กฎหมายฉบับนี้มีต่อ
การกำหนดนโยบาย กฎหมายลำดับรอง และมาตรการอื่น ๆ ที่เกี่ยวพัน
มาโดยตลอด ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากการจัดวงเสวนาหลายต่อหลายครั้ง
เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะปัญหา ข้อติดขัดในการนำกฎหมายมาบังคับใช้
1 หรือความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อกฎหมายฉบับนี้ มีรายงานวิจัยและ
งานศึกษาผลกระทบของกฎหมายฉบับนี้ในมิติทางสังคมหลากหลายฉบับ
รวมทั้งมีการรวบรวมสถิติข้อร้องเรียนว่าด้วยการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุ
แห่งเพศจากหลากหลายสำนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อนับระยะเวลาตั้งแต่
วันที่มีผลจนถึงปี พ.ศ. 2564 กล่าวได้ว่า พระราชบัญญัติความเท่าเทียม
1. ที่มาและความสำคัญ
ระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 มีผลใช้บังคับมานานกว่า 5 ปีแล้ว แต่ยังไม่มี
พระราชบัญญัติความเท่าเทียม การศึกษาบทบัญญัติดังกล่าวในแง่มุมของสัดส่วนการบรรลุตาม
ระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ซึ่งมีผลบังคับใช้ วัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในตัวกฎหมาย ความคุ้มค่าของการใช้กลไกและ
วันที่ 9 กันยายน 2558 นับเป็นเครื่องมือ มาตรการต่าง ๆ ตามกฎหมายเมื่อเปรียบเทียบกับภาระหน้าที่ที่ประชาชน
ทางกฎหมายชิ้นแรกของประเทศไทยในอันที่ รวมทั้งหน่วยงานผู้บังคับใช้ต้องแบกรับ ไปจนถึงผลกระทบอย่างเป็น
จะทำให้แนวคิดเรื่องความเท่าเทียมกันระหว่าง รูปธรรมของการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ ในลักษณะของการประเมิน
เพศชาย เพศหญิง และบุคคลที่มีความหลากหลาย ผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายโดยเฉพาะเจาะจงเลย ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์
ทางเพศ รวมทั้งการปกป้องคุ้มครองสิทธิของ อย่างยิ่งต่อการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้ดีขึ้น สามารถบรรลุเป้าหมาย
ผู้ถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับ ตามเจตนารมณ์ได้อย่างแท้จริง ทั้งยังเพื่อให้ทันสมัยและสอดคล้องกับ
การยอมรับทั้งในระดับสากล และถูกรับรองไว้ใน สถานการณ์ในเรื่องนี้ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วจากเมื่อปี พ.ศ. 2558
2 สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพระปกเกล้า