Page 134 - kpi21190
P. 134
134
ประเทศอื่น ๆ ใน EPA ทั่วไปเช่นกัน การทำธุรกรรมผ่านบัญชีเงินทางมือในปี ค.ศ. 2014-
2017 ก็มีจำนวนที่มากกว่าประเทศอื่นใน EAP
สำหรับข้อมูลการใช้การชำระเงินแบบดิจิทัลอยู่ในระดับเดียวกันซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ดิฉันคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากที่รัฐบาลไทยพยายามส่งเสริมระบบ
การจ่ายเงินดิจิทัลอย่างไรก็ตามก็ยังต้องมีการปรับปรุงต่อไปอีก จากกราฟสองภาพนี้แสดงให้
เห็นการจ่ายเงินค่าน้ำค่าไฟในประเทศไทยที่น้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิกตะวันออก
อย่างมาก โดยประมาณร้อยละ 20 จ่ายค่าน้ำค่าไฟจากบัญชีธนาคารและประมาณร้อยละ 4
จ่ายจากโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นอาจจะต้องมีการปรับปรุงให้ระบบมีผู้ใช้มากขึ้น ดิฉันมั่นใจว่า
ระบบการจ่ายเงินดิจิทัลจะเห็นเป็นแนวทางปฏิบัติที่มีแนวโน้มดีขึ้นในงานศึกษาครั้งต่อไป
อัตราส่วนสำหรับค่าจ้างที่ดำเนินการที่เก็บข้อมูลโดยหน่วยงานธนาคารโลกเป็นข้อมูลสำหรับ
ภาคเอกชนเท่านั้น ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางยังจ่ายเป็นเงินสดไม่ใช่การจ่ายเงินด้วยบัญชี
รายละเอียดในระดับครัวเรือนจะเห็นได้ว่ารายได้เฉลี่ยของครัวเรือนที่น่าสนใจคือค่าเฉลี่ยต่อ
ครัวเรือนที่มีการเพิ่มขึ้นโดยดูจากมูลค่าสินเชื่อรถยนต์ในอดีต จากโปรโมชั่นสินเชื่อสำหรับ
รถยนต์คันแรกทำให้มีการเพิ่มระดับหนี้ในครัวเรือนสูงขึ้้น ภาพนี้จากตัวเลข 2,100
ร้อยละ 80 เป็นการบริโภคที่เป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละครัวเรือนส่วนอีกร้อยละ 12.9 เป็นค่าอื่น ๆ
เช่น ภาษี ค่าธรรมเนียม และอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือค่าลอตเตอรี่ เปรียบเทียบจากหนี้
ครัวเรือนร้อยละ 78 ต่อจีดีพี
สำนักงานสถิติแห่งชาติแสดงให้เห็นว่าร้อยละ 49 ของครัวเรือนในประเทศไทยมีหนี้สิน
ในครัวเรือนโดยยังไม่รวมหนี้สินในส่วนอื่น ๆ หนี้สินจำนวนร้อยละ 41 เพื่อการบริโภคซึ่งเป็น
สัญญาณว่าผู้คนยืมเงินเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันซึ่งเป็นไปได้ว่าในอนาคตผู้คนส่วนใหญ่อาจจะ
พบกับความยากลำบากในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หากกู้เงินเพื่อซื้อบ้านเป็นเวลา 30 ปี
เอกสารประกอบการอภิปรายร่วมระหว่างผู้แทนจากต่างประเทศ
ซึ่งเป็นค่าเศรษฐกิจแบบขดตัว หากกู้เงินเพื่อทำธุรกิจจะมีแนวโน้มในการได้เงินเป็นรายได้คืน
เงินกู้ร้อยละ 41 ของเงินให้กู้ยืมเพื่อการบริโภคในขณะนี้ทำให้รัฐบาลต้องพิจารณาเรื่องของ
การออมในครัวเรือนโดยเริ่มจากระดับที่ต่ำสุดคือประมาณร้อยละ 5 ของรายได้ในการเก็บออม
แต่หากเป็นไปได้สำหรับครัวเรือนที่มีรายได้สูงอาจจะเก็บออมได้ถึงประมาณร้อยละ 25%
ซึ่งจะเป็นระดับที่สมเหตุสมผลที่เป็นค่าเฉลี่ยซึ่งแต่ละครัวเรือนก็จะมีความแตกต่างกัน ในช่วง
10 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าวัตถุประสงค์ของการกู้เงินของครัวเรือนคล้าย ๆ กันแต่การกู้เงิน
เพื่อการบริโภคในครัวเรือนเพิ่มขึ้นมากจากร้อยละ 28 มาเป็นร้อยละ 41 อย่างที่ทราบกัน
อยู่แล้ว หากกู้เงินเพื่อบริโภคจะไม่สามารถสร้างรายได้คืนกลับมาหรือชำระคืนเงินกู้ได้ใน
อนาคต ตัวเลขนี้มาจากการศึกษาครั้งล่าสุดที่ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
ยืนยันจากสำนักงานสถิติแห่งชาติว่าสินเชื่อส่วนบุคคลกำลังเพิ่มขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา