Page 139 - kpi20858
P. 139
96
ห้องที่ ๑๘ สมเด็จพระนเรศวรได้เมืองหงสาวดี พ.ศ.๒๑๔๒
ตั้งแต่สมเด็จพระนเรศวรชนช้างชะนะพระมหาอุปราชาแล้ว พระเจ้าหงสาวดีก็เข็ด
ขยาดไม่อาจยกกองทัพมาตีเมืองไทยอีก ต่อมาไม่ช้าพวกหัวเมืองมอญก็เอาใจออกหากจาก
พม่ามาขอขึ้นไทย สมเด็จพระนเรศวรได้เมืองเมาะตะมะเป็นที่มั่น แล้วยกขึ้นไปตีเมืองหงสาว
ดี (เขียน) เมื่อสมเด็จพระนเรศวรไปถึงพระเจ้าเมืองตองอูพาพระเจ้าหงสาวดีหนีไปไม่ต่อสู้
สมเด็จพระนเรศวรได้เมืองหงสาวดี
ห้องที่ ๑๙ สมเด็จพระนเรศวรล้อมเมืองตองอู พ.ศ.๒๑๔๒
สมเด็จพระนเรศวรได้เมืองหงสาวดีแล้ว ยกกองทัพติดตามไปหวังจะจับพระเจ้าหง
สาวดีที่หนีไปอยู่เมืองตองอู ไปตั้งล้อมเมือง ได้ช้างม้าพาหนะของข้าศึกเป็นอันมาก แต่กอง
ทัพขัดสะเบียงอาหารถึงไพร่พลอดอยากล้มตายจ าต้องเลิกทัพกลับคืนมาพระนคร
ห้องที่ ๒๐ สงครามครั้งสุดท้ายของสมเด็จพระนเรศวร พ.ศ.๒๑๔๗
พระเจ้าหงสาวดีสิ้นพระชนม์ พระเจ้าอังวะตั้งตัวเป็นใหญ่ ขยายอ านาจรุกมาทางหัว
เมืองเงี้ยวที่มาขึ้นอยู่กับเมืองไทย สมเด็จพระนเรศวรจึงเสด็จยกกองทัพหลวงขึ้นไปทางเมือง
เชียงใหม่ หมายจะไปตีเมืองอังวะ ไปประชวรสวรรคตที่เมืองหาง (ห้องนี้เขียนเมื่อสมเด็จ
พระเอกาทศรถเชิญพระบรมศพสมเด็จพระนเรศวรกลับ มีกระบวรแห่เจ้านายเท้าพญาเมือง
152
เชียงใหม่ห้อมล้อมติดตามส่ง
จากการก าหนดเรื่องดังกล่าว เป็นผลดีต่อการสร้างภาพจิตรกรรม เพราะถือเป็นการวางเรื่อง
ของแต่ละผนังก่อนมีการเขียนจริง ท าให้ครอบคลุมสอดรับไปกับเรื่องในพระราชพงศาวดาร
นอกจากนี้ยังมีการกะผนังห้องพิเศษ ซึ่งเป็นฉากตอนส าคัญ คือ การกระท ายุทธหัตถี ในเรื่องนี้
สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด ารงราชานุภาพ ได้มีจดหมายลายพระหัตถ์ก าหนด และแนะ
แนวทางไว้ดังนี้
ห้องพิเศษ (เขียนผนังหลังประตูดันหน้าทั้งฝา) สมเด็จพระนเรศวรทรงท ายุทธหัตถี
พ.ศ.๒๑๓๕ ตัวเรื่องตอนนี้ดูในหนังสือ “พงสาวดารเรื่องไทยรบพม่า” เล่ม ๑๑๗ ซึ่งเขียนตาม
ได้ ตรวจท้องที่และสอบเรื่องแล้ว ถูกต้องดีกว่าในหนังสืออื่นหมด มีจะต้องเขียนผิดกับข้อ
ส าคัญกันมาแต่ก่อนบางอย่าง จะบอกไว้ต่อไปนี้คือ
ก. เครื่องผูกช้างของจอมพล เข้าใจกันมาว่าผูก คชาธารทั้งช้างทรงเมื่ออ านวยศึก
และช้างทรงเมื่อท ายุทธหัตถี นักโบราณคดีตัดสินในชั้นหลังว่าช้างทรง เมื่อท ายุทธหัตถีนั้น
ถ้าผูกคชาธารเป็นอันตราย ต้องเป็นช้างผูกเครื่องมั่นหลังเปล่า มีคนขี่ ๓ คน คนขี่ถือของ้าว
152 เรื่องเดียวกัน.
