Page 55 - kpi19909
P. 55
49
บริเวณพื้นที่ โดยคําสั่งดังกล่าว เป็นการเชื่อมโยงแนวทางสําคัญของ
ยุทธศาสตร์สันติวิธีเพื่อความมั่นคงของชาติ ที่เน้น การเสริมสร้างพลัง
ความสามัคคี บนพื้นฐานการมี ส่วนร่วมของทุกฝ่าย ในบรรยากาศของ
การมีทัศนคติ ที่ดี ห่วงใย เอื้ออาทร ทําให้คนในชาติอยู่ร่วมกัน อย่าง
สันติวิธี บนพื้นฐานของความหลากหลายในวิถี ชีวิต วิธีคิด และ
วัฒนธรรม พร้อมเผชิญปัญหา และ เรียนรู้การแก้ไขปัญหาร่วมกันโดย
ไม่ใช้ความรุนแรง ประกอบด้วย 1. การนํากฎหมายที่มีอยู่มาใช้เพื่อการ
พัฒนาอย่างยั่งยืน เนื่องจาก พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2507 ตาม
มาตรา 19 เปิดให้ให้ชุมชนเข้ามาร่วมดูแลบริหารจัดการได้ 2. การสร้าง
กฎหมายใหม่ที่จะรองรับป่าชุมชน เพื่อรับรองสิทธิในการใช้ประโยชน์
อย่างยั่งยืน โดยให้สิทธิดังกล่าวเป็นเพียงสิทธิในการใช้ประโยชน์ ถือ
เป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุในระดับกฎหมาย (พระราชบัญญัติ) 3.
จากปัญหาที่ไม่มีการออกกฎหมายระดับกลาง จึงต้องข้ามไปที่
ข้อบัญญัติท้องถิ่น โดยใช้หลักสิทธิชุมชนตามรัฐธรรมนูญ ในการนําเอา
จารีตวิธีปฏิบัติ การดูแลจัดการป่าของชุมชน ที่พิสูจน์มาแล้วว่าดูแล
จัดการป่าได้อย่างยั่งยืน ผ่านกลไกของสภาตําบล เทศบาล มาทําให้มี
สถานะเป็นกฎหมายโดยการดึงออกมาเป็น “ข้อบัญญัติท้องถิ่น” โดย
ตั้งเป้า 54 ตําบลใน จ.น่าน 4. การแก้กฎหมายไม่พอ ยังต้องมีส่วนที่
ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้การจัดการแก้ไขปัญหาเชิง
ระบบ 5. สร้างระบบสิทธิในทรัพยากร (Property Right) ให้ชุมชนมีส่วน
ร่วมในการจัดการ โดยการทํา “โฉนดชุมชน” หรือ “ที่ดินแปลง
รวม” เป็นการจัดการในระบบที่ไม่ได้ให้เป็นสิทธิปัจเจก แต่ให้ทั้งชุมชน
ดูแลจัดการที่ดิน โดยมีกติการ่วมของชุมชน 6. การใช้เทคโนโลยีเข้ามา
จัดการ ซึ่งมีการทํางานร่วมกับพื้นที่กว่า 40 ตําบล ใน จ.น่าน ผ่านแอป
พลิเคชัน “Nan Sustain” ให้รัฐสามารถติดตามธรรมาภิบาลของชุมชน
ผ่าน GPS ว่าเขาสามารถดูแลจัดการป่าตามแนวป้องกันไฟป่า เก็บของ
ป่า ตามกติกาหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการเสนอ “น่านโมเดล” ฟื้นฟูป่าต้น
นํ้ารูปแบบใหม่บนพื้นที่ภูเขาสูงชัน (เขาหัวโล้น) คืนป่าสีเขียวให้เมือง
น่าน ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นโมเดลฟื้นฟูป่าต้นนํ้ารูปแบบใหม่ เพื่อ
แก้ปัญหาการปลูกป่าแล้วยังถูกบุกรุก บนพื้นที่ยึดคืนจากนายทุน 1,950
ไร่ ในเบื้องต้นดําเนินการฟื้นฟูแล้ว 250 ไร่ ด้วยการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่