Page 330 - kpi19903
P. 330

293



               พรรคการเมืองขนาดกลางอย่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนาพบความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ที่มีรูปแบบไม่
               ชัดเจนนัก ซึ่งทั้งสองพรรคได้รับคะแนนจากเขตเลือกตั้งเพียงไม่กี่เขตเท่านั้น และไม่ได้รับคะแนนเลือกตั้งเลยจาก

               เขตเลือกตั้งอื่น ๆ พฤติกรรมการเลือกตั้งเช่นร้อยละของบัตรเสีย ร้อยละของการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และร้อยละ

               ของการไม่ประสงค์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งก็พบความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน
                       ผลการวิเคราะห์ Local Spatial Autocorrelation (LISA) พบว่าผลการเลือกตั้งมีการเกาะกลุ่มตาม

               ภูมิภาคอย่างชัดเจนในสองพรรคการเมืองใหญ่ ในขณะที่พบการเกาะกลุ่มเล็ก ๆ ของพรรคการเมืองขนาดกลาง

               โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
               แทบจะไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์เลย ภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนพรรคภูมิใจไทย

               พบการเกาะกลุ่มเล็ก ๆ บริเวณตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในจังหวัดบุรีรัมย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา

               พบการเกาะกลุ่มเล็ก ๆ บริเวณบริเวณภาคกลางในจังหวัดสุพรรณบุรี ภาคใต้ตอนล่าง และภาคตะวันตกมีแนวโน้ม
               ที่จะท าบัตรเสีย ในขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะไม่ใช้สิทธิ์แบบไม่ประสงค์ลงคะแนนและพื้นที่บางส่วนยังมี

               แนวโน้มไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งด้วย

                       11. ผลการวิเคราะห์ส่วนประกอบส าคัญ (Principal component analysis) ของความเป็นเมือง
               (Urbanization) ของเขตเลือกตั้งในปี 2554 พบว่ามีสามส่วนประกอบส าคัญคือ หนึ่ง ความหนาแน่นของเมือง

               (urban density index, UDI), สอง สวัสดิการสังคมของเมือง (urban social welfare index, USWI) อันได้แก่

               ร้อยละของประชาชนที่มีสิทธิประกันสังคม and ความเป็นเศรษฐกิจเมือง (UEI)
                       การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นเมืองกับผลการเลือกตั้งและพฤติกรรมการเลือกตั้งของเขต

               เลือกตั้งพบว่า 1. ดัชนีสวัสดิการสังคมของเมืองและดัชนี้ความเป็นเศรษฐกิจเมืองสัมพันธ์ทางลบกับร้อยละที่เลือก

               พรรคเพื่อไทย 2.ดัชนีความหนาแน่นของเมืองและดัชนีความเป็นเศรษฐกิจเมืองสัมพันธ์ทางบวกกับร้อยละที่เลือก
               พรรคประชาธิปัตย์ 3. ดัชนีความหนาแน่นของเมืองสัมพันธ์ทางลบกับร้อยละที่เลือกพรรคภูมิใจไทย 4. ดัชนี

               สวัสดิการสังคมเมืองและดัชนีความเป็นเศรษฐกิจเมืองสัมพันธ์ทางลบกับร้อยละของบัตรเสีย 5. ดัชนีความ

               หนาแน่นของเมืองสัมพันธ์ทางบวกกับร้อยละการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง (No Vote) 6. ดัชนีความหนาแน่นของเมือง
               ดัชนีสวัสดิการสังคมของเมืองและดัชนี้ความเป็นเศรษฐกิจเมืองสัมพันธ์ทางบวกกับร้อยละของผู้ที่ไม่ประสงค์จะ

               ออกเสียงเลือกตั้ง (Vote No) ดังนั้นความเป็นเมืองจึงมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผลการเลือกตั้งและพฤติกรรม

               การใช้สิทธิเลือกตั้งของแต่ละเขตเลือกตั้งอย่างชัดเจน
                       12. ตัวแบบส าหรับพยากรณ์ผลการเลือกตั้งในการวิเคราะห์ระดับเขตที่ดีที่สุดพบว่า วิธี OLS ที่ไม่

               พิจารณาความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ให้ผลการท านายที่ไม่แม่นย าเท่า ในขณะที่ตัวแบบที่ดีที่สุดในการพยากรณ์ผลการ

               เลือกตั้ง ปี  2554 คือ Spatial error regression model ซึ่งเป็นตัวแบบที่พิจารณาถึงความสัมพันธ์เชิงพื้นที่
                       ผลการวิเคราะห์พฤติกรรมการเลือกตั้งระดับบุคคลพบว่า
   325   326   327   328   329   330   331   332   333   334   335