Page 139 - kpi19842
P. 139
“กระบวนการเป็นผู้น าแบบทางการและการมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไทยภูเขา กรณีศึกษากลุ่มชาติพันธุ์
ชาวไทยภูเขา อ าเภอคลองลาน จังหวัดก าแพงเพชร” โดย โอกามา จ่าแกะ ผศ.ณัฏฐวุฒิ ทรัพย์อุปถัมภ์ ชลกานดาร์ นาคทิม
ของ Keyes (1976) น าเสนอว่า อัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์เป็นการหล่อหลอมที่มีมายาวนานของความรู้สึก
ร่วมกันในสายเลือด (shared descent)
3) ปัจจัยด้านการศึกษา การเรียนรู้ภาษาไทยจากระบบการศึกษาท าให้ชนชาติพันธุ์มีความรู้
ความเข้าใจและสามารถสื่อสารได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นองค์ประกอบหลักที่ส าคัญในสถานการณ์ปัจจุบัน
ส าหรับผู้น าของชนเผ่าจะเป็นการศึกษาเพียงแค่ การอ่านออก เขียนได้ พูดสื่อสารได้ ไม่จ าเป็นต้องจบ
การศึกษาในระดับสูง ซึ่งจะเห็นว่ากลุ่มผู้น าชนเผ่าส่วนใหญ่นั้นระดับการศึกษาจะมีตั้งแต่ประถมศึกษาถึง
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง โดยในปัจจุบันชนเผ่าต่างๆ จะให้ความส าคัญกับการศึกษา เช่น จากการ
สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษา เพื่อมีคุณวุฒิติดตัว หลายชนเผ่าในปัจจุบันต่างมี
การสนับสนุนให้ได้รับการศึกษาระดับสูง (ปริญญาตรีขึ้นไป) แต่ส่วนใหญ่เมื่อจบการศึกษาแล้วก็จะหันไป
ประกอบอาชีพตามความรู้ที่ตนเรียนมา เช่น การเข้าการรับราชการครู เจ้าหน้าที่รัฐ พยาบาล บ้างก็
ประกอบอาชีพธุรกิจของตนเอง เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นการวางรากฐานประการหนึ่งในการเข้าไปมีส่วนร่วม
ทางการเมืองของชนเผ่า
ในทางกลับกัน พบว่า ผู้น าอย่างเป็นทางการนั้นต่างมีทัศนะที่เห็นว่า ถึงแม้ความรู้จะมี
ความส าคัญ แต่การเข้ามาเป็นผู้น านั้น ได้น าความรู้มาพัฒนาหมู่บ้านหรือไม่ หรือได้เรียนรู้มาแล้วน าความรู้
มาแก้ไขปัญหาชาวบ้านได้หรือไม่
4) ปัจจัยด้านลักษณะส่วนบุคคล ผู้น าชนเผ่าต่างๆ โดยส่วนมากแล้วจะมีลักษณะบุคลิก
อุปนิสัยที่ใจกว้าง มีความอดทน พูดจาดี สามารถทนต่อกระแสแรงบีบคั้นได้
5) ฐานะความเป็นอยู่และคนในครอบครัว การเป็นผู้น าที่ต้องเสียสละเวลาของตนเองมา
ท างานเพื่อส่วนร่วม เพื่อประประโยชน์ของชนเผ่า ท าให้การมีความสัมพันธ์ระหว่างครอบบางครั้งอาจจะ
ไม่ราบรื่น ผู้น าบางชนเผ่าในอดีตต้องการให้มีการผลัดเปลี่ยนให้คนรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีครอบครัว หรือสามารถ
บริหารเวลาให้กับครอบครัวได้ เพื่อตนเองจะได้มีเวลาให้กับครอบครัวของตนเอง ถึงแม้ว่าจะได้รับการ
สนับสนุนจากสมาชิกในชนเผ่า แต่ถ้าครอบครัวไม่เห็นด้วยก็จ าเป็นต้องสละให้แก่ผู้ที่มีความเหมาะสม
ผลการศึกษาใกล้เคียงกับของ ดวงพร พยัตตพงษ์ (2553) พบว่า สาเหตุที่ได้รับการเลือกตั้งในเขตเทศบาล
เกิดจากปัจจัยทางบุคลิกภาพส่วนตัว ประกอบกับปัจจัยด้านครอบครัวที่มีส่วนสนับสนุนในการให้ยอมรับ
และก าลังใจต่อการท างานทางการเมือง สอดคล้องกับผลการศึกษาของ ธัณฑรัตม์ ปัญโญแก้ว (2556)
ปัจจัยที่ส่งเสริมให้สตรีเป็นผู้น าการเมืองท้องถิ่นในครั้งนี้ ประกอบไปด้วยลักษณะเด่นเฉพาะตัวของสตรี
ซึ่งบุคลิกดังกล่าวถือเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคนในชุมชนที่จะเลือกสตรีเหล่านี้
เป็นตัวแทนทางการเมืองท้องถิ่น ปัจจัยด้านครอบครัว ที่เกี่ยวข้องได้แก่ ความเข้าใจ การให้ก าลังใจ และ
การสนับสนุนของคนในครอบครัว
6) ปัจจัยด้านความเห็นพ้องต้องกัน ผู้ที่เป็นตัวแทนชนเผ่าหรือผู้น าชนเผ่า การที่จะได้รับการ
คัดเลือกมา ก็จะถูกพิจารณาว่ามีส่วนร่วมในชนเผ่าหรือไม่ เช่น ผู้น าบางคนเป็นประธานเยาวชนในชนเผ่า
138