Page 136 - kpi19842
P. 136

“กระบวนการเป็นผู้น าแบบทางการและการมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไทยภูเขา กรณีศึกษากลุ่มชาติพันธุ์
                       ชาวไทยภูเขา อ าเภอคลองลาน จังหวัดก าแพงเพชร”  โดย  โอกามา จ่าแกะ  ผศ.ณัฏฐวุฒิ  ทรัพย์อุปถัมภ์  ชลกานดาร์  นาคทิม





                  เพื่อเป็นตัวแทนในการปกครองท้องถิ่นของผู้น าชนเผ่าต่างๆ เริ่มเข้ามามีบทบาทในการเป็นผู้น าท้องถิ่น
                  อย่างเป็นทางการ ซึ่งจากการเรียนรู้ถึงการปกครองของตนเองและท้องถิ่นของชนชาติพันธุ์ชาวไทยภูเขา ท า

                  ให้มีการปรึกษาหารือกันในชนเผ่าเบื้องต้นเสียก่อน เพื่อที่จะผ่านการพิจารณาในกลุ่มของตนเองก่อนและ

                  ยอมรับด้วยกันว่าจะส่งสมาชิกเผ่าหรือผู้น าคนใดลงสมัครแข่งขันเลือกตั้ง เพราะการที่ต าแหน่งทางการ
                  ปกครองว่างลงและมีการสมัครรับการเลือกตั้งในแต่ละครั้งจะต้องมีการแข่งกับคนไทยหลายกลุ่มรวมถึง

                  ชนชาติพันธุ์ชาวเขาเผ่าอื่นด้วย ในบางครั้งก็มีกรณีพิพาทกับคนไทย (พื้นราบ) ที่เป็นคู่แข่งขันฝ่ายตรงกัน
                  ข้าม ซึ่งการต่อสู้ทางการเมืองท้องถิ่นด้วยการเลือกตั้งก็เกิดการแข่งขันกันอย่างถึงที่สุดเช่นเดียวกัน


                         ปัญหาในการขึ้นมาเป็นผู้น าทางการเมืองระดับท้องถิ่นในปัจจุบันของชนชาติพันธุ์ มักจะมีปัญหา
                  ติดขัดที่เกิดจากนโยบาย อาทิ การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลที่มีระบบแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จะมีลักษณะ

                  การเอื้อต่อชนชาติพันธุ์ที่ยากกว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต าบล ทั้งนี้สืบเนื่องจากจ านวน

                  ผู้เข้ารับสมัครเข้ารับการเลือกตั้ง

                         โดยการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนั้นจะเป็นลักษณะการแบ่งเขตการปกครอง และสามารถ
                  ลงสมัครได้ในทุกเขตที่มีจ านวนผู้สมัครมีถิ่นฐาน ถึงแม้ว่าจะมีจ านวนประชากรเท่าๆ กัน แต่ลักษณะของ

                  พื้นที่และการอาศัยอยู่จะมีความคาบเกี่ยวกันของกลุ่มคนไทยและชนเผ่าต่างๆ

                         จากพัฒนาการของการเป็นผู้น าที่ผ่านมาของกลุ่มชนชาติพันธุ์ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

                  ในหลายด้าน ทั้งในด้านวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ด้านสังคมวัฒนธรรมและด้านการเมืองการปกครอง

                  ซึ่งสอดคล้องกับการอธิบายของนักวิชาการว่า การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม หมายถึง
                  การเปลี่ยนแปลงของระบบความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในสังคมและการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้าง

                  ของความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มและระหว่างส่วนประกอบของสังคมนั้นๆ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่าง

                  ชาวชนบท ชาวเมือง การเปลี่ยนแปลงทางสังคมดังกล่าวนี้ย่อมเกิดขึ้นในระดับกลุ่มบุคคลและในระดับ
                  สถาบันทางสังคมไม่ว่าจะเป็นในสถาบันครอบครัว เครือญาติ การสมรส การครองเรือนหรือสถาบัน

                  การเมือง เศรษฐกิจ (สุริชัย หวันแก้ว, 2549) และณัฏฐวุฒิ ทรัพย์อุปถัมภ์ (2558) ที่ระบุว่าการเปลี่ยนแปลง
                  ทางวัฒนธรรม เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับการด าเนินชีวิตของคนในสังคม กลุ่มชน และยังได้

                  สรุปว่า การเปลี่ยนแปลงทางสังคมจะมองไปที่โครงสร้างหน้าที่ของระบบในสังคม กลุ่มชน
                  ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมจะมองไปที่วิถีชีวิต ระเบียบแบบแผนที่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม




















                                                           135
   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140   141