Page 159 - kpi19815
P. 159
158 การคัดค้านผลการเลือกตั้งโดยผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 159
เพียงใด ยกตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ 2.2 เขตอำ�น�จของศ�ลฎีก�ในก�รพิจ�รณ�คดีเลือกตั้งภ�ยใต้
แจกแว่นตาแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งพร้อมกับชักชวนให้ลงคะแนนเสียงแก่ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
ผู้สมัครรายหนึ่ง (ซึ่งภายหลังได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ได้กำาหนด
แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้สมัครดังกล่าวเป็นผู้ใช้ หรือรู้เห็นเป็นใจใน สถานะและอำานาจของศาลฎีกาในคดีเลือกตั้งให้แตกต่างไปจากเดิม
การกระทำาผิดเช่นว่านั้น ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งจึงมีคำาสั่งยกเลิก กล่าวคือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ได้กำาหนดให้มี
ผลการเลือกตั้งและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ 202
แผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกาเพื่อพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง
ประเภทที่สาม การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้สมัครรับ แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมิได้กำาหนดให้มีแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา
เลือกตั้ง หมายถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมีความเห็นภายหลัง แต่อย่างใด นอกจากนี้เขตอำานาจในการพิจารณาคดีเลือกตั้งของศาลฎีกา
การประกาศผลการเลือกตั้งว่าผู้สมัครที่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ได้กระทำา ยังลดลงเหลือเพียงอำานาจในการพิจารณาคำาร้อง 2 ประเภทดังนี้
ความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งและเสนอคำาร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดี ประเภทแรก การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือสิทธิ
เลือกตั้งเพื่อวินิจฉัย หากศาลฎีกาวินิจฉัยว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งกระทำา เลือกตั้งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หมายถึง กรณีที่คณะกรรมการ
ความผิดจริงตามคำาร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ศาลจะต้อง การเลือกตั้งมีความเห็นภายหลังการประกาศผลการเลือกตั้งว่าผู้สมัคร
เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของบุคคลดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี แต่จะไม่มีการ ที่ได้รับเลือกตั้ง ได้กระทำาความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งและเสนอคำาร้อง
สั่งยกเลิกผลการเลือกตั้งแต่อย่างใด
ต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย กรณีที่ศาลฎีการับคำาร้องดังกล่าว สมาชิกสภา
ยกตัวอย่างเช่น ปรากฏหลักฐานว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งได้แจก ผู้แทนราษฎรที่ถูกกล่าวหาจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีจนกว่าศาลฎีกา
203
เสื้อยืดที่มีการสกรีนชื่อของผู้สมัครให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือกรณีที่ จะมีคำาสั่งยกคำาร้อง ในกรณีที่ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าสมาชิกสภาผู้แทน
ผู้สมัครรับเลือกตั้งและหัวคะแนนได้มอบเงินให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 204 ราษฎรกระทำาความผิดจริง ศาลมีอำานาจเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
กรณีเหล่านี้แม้ผู้กระทำาความผิดจะไม่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทน หรือสิทธิเลือกตั้งของบุคคลดังกล่าวเป็นเวลา 10 ปี และจะส่งผล
ราษฎรก็ยังคงต้องได้รับการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี เป็นการยกเลิกผลการเลือกตั้งไปโดยปริยาย แม้จะไม่มีการกำาหนดไว้
ในรัฐธรรมนูญว่าศาลฎีกามีอำานาจในการยกเลิกผลการเลือกตั้งก็ตาม
(อาจมีการกำาหนดเพิ่มเติมในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญในอนาคต)
202 คำาสั่งศาลฎีกาที่ 19992/2555 ประเภทที่สอง การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือสิทธิ
203 คำาสั่งศาลฎีกาที่ 1037/2552 เลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้ง หมายถึง กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง
204
คำาสั่งศาลฎีกาที่ 1932/2555 มีความเห็นภายหลังการประกาศผลการเลือกตั้งว่าผู้สมัครที่ไม่ได้รับ