Page 156 - kpi19815
P. 156
154 การคัดค้านผลการเลือกตั้งโดยผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 155
โดยสรุป โดยผลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2. บทบาทของศาลฎีกาในการตรวจสอบความชอบด้วย
2560 คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำานาจในการระงับสิทธิสมัครรับ กฎหมายของการเลือกตั้ง
เลือกตั้งของผู้สมัครและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในช่วงเวลาก่อนประกาศ
ผลการเลือกตั้ง โดยคำาสั่งทั้ง 2 ประเภทมีผลเป็นที่สุด ในกรณีมีการ
ประกาศผลการเลือกตั้งไปแล้วปรากฏหลักฐานว่าผู้สมัครรับเลือกตั้ง ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.
ได้กระทำาความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง 2540 นั้น อำานาจหน้าที่ในการตรวจสอบความสุจริตและเที่ยงธรรมของ
มีอำานาจเสนอคำาร้องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิสมัคร การเลือกตั้งอยู่ในมือของคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่เพียงองค์กรเดียว
รับเลือกตั้งหรือสิทธิเลือกตั้งของผู้สมัครดังกล่าว ต่อมาเมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550
อำานาจเช่นว่านั้นได้ถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกคือ
อำานาจของคณะกรรมการการเลือกตั้งในการตรวจสอบความสุจริตและ
เที่ยงธรรมของการเลือกตั้งก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง และประเภท
ที่สองคืออำานาจของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งในการตรวจสอบความ
สุจริตและเที่ยงธรรมของการเลือกตั้งหลังประกาศผลการเลือกตั้ง โดย
ทั้ง 2 องค์กรมีอำานาจในลักษณะเดียวกัน (อำานาจในการเพิกถอนสิทธิ
เลือกตั้งและอำานาจในการยกเลิกผลการเลือกตั้ง) โดยมีการประกาศผล
การเลือกตั้งเป็นเครื่องบ่งชี้เขตอำานาจ อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญฉบับ
ปัจจุบันได้กำาหนดอำานาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีเลือกตั้งของศาลฎีกา
ไว้แตกต่างไปจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิม เพื่อทำาความเข้าใจบทบาทของ
ศาลฎีกาในการพิจารณาคดีเลือกตั้ง เราสามารถเริ่มจากการพิจารณาเขต
อำานาจของศาลฎีกาในการพิจารณาคดีเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 จากนั้นจึงสามารถพิจารณาเขตอำานาจ
ของศาลฎีกาในการพิจารณาคดีเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน