Page 129 - kpi18358

จากประเด็นค าถามดังกล่าว คณะผู้วิจัยได้พัฒนาเป็นข้อค าถามแล้วทดสอบความตรงเชิงเนื้อหา

(Content validity) ด้วยการประชุมร่วมกันกับผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจราชการแบบบูรณาการ

จ านวน 5 ท่านจากส านักตรวจราชการ ส านักนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาเนื้อหาและรูปแบบของ

แบบสอบถามทั้งหมดแล้วน ากลับไปปรับปรุงตามข้อเสนอแนะ จากนั้นได้น าแบบสอบถามที่ปรับปรุงแล้ว

ไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลอง (Try out) ซึ่งเป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ในระบบการตรวจราชการของส านัก

นายกรัฐมนตรีจ านวน 30 ท่าน จากนั้นได้น าผลจากการตอบแบบสอบถามไปหาความเที่ยงของเครื่องมือ

ด้วยวิธี Cronbach's alpha ได้ค่า 0.975 จึงได้น าแบบสอบถามไปใช้เก็บข้อมูลในกลุ่มเป้ าหมายจริง

3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

3.2.1 กลุ่มตัวอย่างเพื่อเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ

ข้อมูลเชิงคุณภาพรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกและการระดมความคิดเห็น กลุ่มตัวอย่าง

การสัมภาษณ์เชิงลึก ใช้วิธีการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง โดยเกณฑ์ที่ใช้ก าหนดจ านวนกลุ่มตัวอย่างจะแบ่งตาม

ลักษณะการมีบทบาทในการตรวจราชการแบบบูรณาการของส านักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งสิ้น 22 ท่าน

ประกอบด้วย

1) ผู้บริหารระบบการตรวจราชการ 2 ท่าน

2) ผู้ตรวจราชการส านักนายกรัฐมนตรี 9 ท่าน

3) ผู้ตรวจราชการกระทรวงและผู้ตรวจราชการกรม 2 ท่าน

4) ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่สนับสนุนงานตรวจราชการ 2 ท่าน

5) ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน 2 ท่าน

6) หน่วยรับตรวจราชการ 5 ท่าน ทั้งนี้ หน่วยรับตรวจราชการจะเลือกจาก 5 กระทรวงหลัก ได้แก่

กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และ

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ส าหรับกลุ่มตัวอย่างการระดมความคิดเห็นประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่

1) ผู้ตรวจราชการส านักนายกรัฐมนตรี 9 ท่าน

2) ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่สนับสนุนงานตรวจราชการ 10 ท่าน

3) ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน 10 ท่าน

การคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง กลุ่มแรก คือ ผู้ตรวจราชการทั้งหมดของส านักนายกรัฐมนตรี กลุ่มที่สอง

คือ ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการส านักนายกรัฐมนตรีและผู้อ านวยการส่วนงานต่าง ๆ ในส านักตรวจราชการ ส านัก

86